คุณภาพชีวิต
'ศรีวราห์' ปล่อยแถวตำรวจจราจรดูแลวันเปิดเทอม
วันนี้ (16 พ.ค.61) เวลาประมาณ 05.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับวันเปิดภาคการศึกษา 2561 ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เพื่อมอบนโยบายและให้โอวาทเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกและการจัดการจราจรแก่พี่น้องประชาชน พร้อมกันนี้ ได้วาง 4 มาตรการแก้ไขปัญหาการจราจรในช่วงเปิดภาคการศึกษา ปีการศึกษา 2561 ดังนี้
1. มาตรการด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร
- จัดตั้งศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรในเขต กทม. (บก.02) โดยมี รอง ผบช.น. ที่ควบคุมงานจราจรเป็นหัวหน้าผู้ควบคุม มีศูนย์ปฏิบัติการตั้งอยู่ภายในอาคารกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำ เพื่อเฝ้าฟังและเฝ้าดูภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เมื่อพบว่าถนนสายใดมีปัญหาการจราจรติดขัดจะแจ้งไปยัง สน.พื้นที่เพื่อสั่งการแก้ไข รวมถึงการประสานกับปริมณฑลเพื่อแก้ปัญหาการจราจรที่ต่อเนื่องกัน
- จัดทำแผนการอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเปิดภาคการศึกษาต้น ประจำปีการศึกษา 2561 โดยให้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาจราจร ออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 05.00 น. นับแต่วันเริ่มเปิดภาคการศึกษาเพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษา และเส้นทางต่อเนื่องให้เกิดความคล่องตัว และความปลอดภัยให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และประสานขอความร่วมมือจากสถานศึกษาและผู้ปกครองในการรับ – ส่งนักเรียนหน้าสถานศึกษา ให้จอดรถให้เป็นระเบียบ โดยเฉพาะสถานศึกษาที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก ให้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประชาสัมพันธ์
- ตรวจสอบอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ที่จำเป็นสำหรับภารกิจให้มีความพร้อม รวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นหากเกิดฝนตก น้ำท่วมขัง และตรวจสอบกำลังพลฝ่ายจราจรให้อยู่ในสภาพพร้อมปฏิบัติเต็มอัตรา โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเปิดภาคการศึกษา หากเกิดฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานานจนน้ำท่วมขังผิวการจราจร ทำให้เกิดปัญหาการจราจร จะรีบประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการโดยเร็ว
- จัดเตรียมรถยกและเจ้าหน้าที่พร้อมปฏิบัติเมื่อมีเหตุจำเป็น
- จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เป็นสายตรวจออกตรวจสภาพการจราจรในเขตรับผิดชอบตลอดเวลา หากพบปัญหาเกี่ยวกับถนนชำรุด รถจอดเสีย หรืออุบัติเหตุ ให้ดำเนินการในส่วนที่ข้อง หรือประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว
- เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นจิตอาสาจราจรช่วยอำนวยการจราจรในจุดที่มีปัญหาจราจรติดจัดเป็นประจำ เช่นหน้าโรงเรียนต่าง ๆ
2. มาตรการด้านวิศวกรรมจราจร
- สำรวจกายภาพของถนนที่เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการจราจร เช่น ถนนที่มีจุดกลับรถที่ใกล้เคียงกันมากจนเกินไป แล้วให้พิจารณาการปิดจุดกลับรถถาวรในจุดที่ไม่จำเป็น หรืออาจปิดจุดกลับรถในบางเส้นทาง (กลับได้เฉพาะขาเข้าหรือขาออก) หรือกำหนดเวลาปิดจุดกลับรถตามความเหมาะสมกับสภาพหรือปัญหาการจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในภาพรวมของถนนเส้นดังกล่าว
- สำรวจถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟที่มีสภาพไม่เรียบเสมอกัน ที่เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนตัวของการจราจร
- สำรวจเครื่องหมายจราจร และสัญญาณไฟจราจร ในพื้นที่ที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หรือเพิ่มเติม เช่น กรณีติดตั้งสัญญาณไฟจราจรสลับช่องทาง (ไฟราว) บนถนนราชวิถี, การปรับย้ายแนวทางข้าม (ทางม้าลาย) บริเวณหน้าประตูทางออกมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา เพื่อเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
- ประสานหน่วยงานเจ้าของโครงการ และผู้รับเหมา ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอยู่บนผิวการจราจร ให้จัดเก็บวัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่กีดขวางการจราจร ปรับปรุงผิวการจราจรให้มีมาตรฐาน และคืนผิวการจราจรให้มากที่สุด หรือเลือกดำเนินการเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนหากสามารถกระทำได้
3. มาตรการด้านการบังคับใช้กฎหมายกวดขันจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะในข้อหาที่ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเช่น การจอดรถ หรือหยุดรถในที่ห้ามหยุด ห้ามจอด แซงรถในที่คับขัน ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร อย่างต่อเนื่อง
4. มาตรการด้านการประชาสัมพันธ์
- จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ช่องทางการร้องเรียนปัญหาการจราจร ข้อเสนอแนะ หรือเบาะแสต่างๆ เกี่ยวกับการจราจร โดยติดตั้งบริเวณทางร่วม ทางแยก หรือสถานที่ที่เหมาะสม ให้ประชาชนสามารถมองเห็นเด่นชัด
- ประชาสัมพันธ์กฎหมายจราจรที่ประชาชนต้องทราบ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ ให้ประชาชนเคารพกฎจราจรมากขึ้น
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสถานศึกษาบางแห่งในกรุงเทพมหานครได้เลื่อนการเปิดภาคเรียนออกไปเนื่องจากหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัด อย่างเช่น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาโดยประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เพื่อให้เกิดความพร้อมในทุกๆ ด้าน และเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด โรงเรียนจึงขอเลื่อนการเปิดภาคเรียน จากวันที่ 16 พ.ค. 2561 เป็นวันที่ 21 พ.ค. 2561
ข่าวเกี่ยวข้อง :
