พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีการจับกุมอาวุธสงครามจำนวนมาก ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล แต่เบื้องต้นอาวุธดังกล่าวไม่ได้ผลิตในประเทศไทย เป็นการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศนานแล้วที่น่ากังวลคือมีจำนวนปริมาณมาก แต่ไม่สามารถสืบค้นได้ทั้งหมดว่ามีจำนวนมากแค่ไหน อีกทั้งพบข้อมูลชัดเจนว่ามีเลขนัมเบอร์มีซีรีย์ว่าเป็นอาวุธชุดเดียวกันกับการก่อเหตุที่หน้าศาลอาญาเมื่อปี 2557 มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาชัดเจน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยายผล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับความคืบหน้า ซึ่งจะเชื่อมโยงกับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ หรือไม่ ยังต้องรอความชัดเจน และการขยายผลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยืนยันการดำเนินการไม่ได้มั่ว ไม่ได้เป็นการกล่าวหาใคร และการกวาดล้างดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้กำชับให้มีการกวาดล้างอาวุธสงครามเพื่อไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงหรือนำมาใช้อีก และจะมีการพูดคุยในที่ประชุม คสช. เรื่องอาวุธสงครามอีกครั้ง
ทั้งนี้การที่พลเอกประวิตร ระบุว่าจะยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้นั้น ตนก็ยืนยันว่า ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เพราะอาจมีปัญหาตามมา ซึ่งทางคสช. มีการพิจารณาร่วมกันในภาพรวมทุกประเด็นไม่เพียงเฉพาะประเด็นของอาวุธสงคราม ยังมีประเด็นด้านกฎหมาย เรื่องสถานการณ์ เรื่องความเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะประเมินสถานการณ์ให้นายกฯ ทราบ แล้วให้ที่ประชุมจะตัดสินใจ
หากติดขัดในแง่กฎหมาย มีผลกระทบกับพรรคการเมือง ต้องหามาตรการรองรับ เพราะเข้าใจความรู้สึกของพรรคการเมือง การเมืองเรื่องความเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าทางความคิด แต่หากความเห็นที่แตกต่างกันไปสู่ความขัดแย้ง ฝ่ายความมั่นคงต้องพยายามตีกรอบความขัดแย้งให้อยู่ในกรอบเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศชาติ เรื่องที่เราไม่มั่นใจก็จะยังไม่ปล่อยเพื่อไปสู่จุดหมายเดียวกัน คือการนำไปสู่การเลือกตั้งตามแนวทางที่กำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง