ไม่พบผลการค้นหา
เพลิงไหม้เผาโบราณวัตถุประเมินค่ายากกว่า 20 ล้านชิ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิล รวมถึงเอกสารบันทึกการได้รับอิสรภาพจากเจ้าอาณานิคมโปรตุเกส และโครงกระดูกมนุษย์อายุกว่า 12,000 ปี

ช่วงค่ำของคืนวันอาทิตย์ (2 ก.ย.) เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารจัดแสดงหลักพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิลอายุกว่า 200 ปี ในกรุงริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ปัจจุบันยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากขณะเกิดเพลิงไหม้นั้นเป็นช่วงเวลาที่พิพิธภัณฑ์ปิดทำการแล้ว

พิพิธภัณธ์ดังกล่าวเป็นสถานที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณจากในประเทศ ในภูมิภาคอเมริกาใต้และทั่วโลกกว่า 20 ล้านชิ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าพิพิธภัณฑ์คาดการณ์กันว่าอาจจะถูกเพลิงไหม้เผาทำลายทั้งหมด

คริสเทียนา เซเรโจ รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า ‘พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาใต้ เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุต่างๆที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งแต่ละชิ้นส่วนนั้นมีอายุมากกว่า 100 ปี’

ภายในพิพิธภัณฑ์มีโบราณวัตถุที่ไม่สามารถประเมินค่าได้อย่างเช่น โครงกระดูกของมนุษย์ 'ลูเซีย' ที่มีอายุกว่า 12,000 ปีและเป็นโครงกระดูกมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกา รวมไปถึงฟอสซิลต่างๆ ฟอสซิลไดโนเสาร์ และอุกาบาตที่ค้นพบในปี 1784 และยังมีเอกสารการให้อิสรภาพแก่บราซิลจากเจ้าอาณานิคมอย่างโปรตุเกสเก็บไว้เช่นกัน

ไมเคิล เตเมร์ ประธานาธิบดีบราซิลกล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า 'วันนี้เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับวงการพิพิธฑ์ภัณฑ์ของประเทศ ความรู้และงานวิจัยที่สั่งสมมากว่า 200 ปีต่างสูญหายไปกับกองเพลิง'


ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า รถน้ำดับเพลิงที่เข้ามาช่วยดับเพลิงนั้นก็มีน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว