พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชารัฐสวัสดิการกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเปิดตัวโครงการใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านแอปพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และให้ความช่วยเหลือร้านโชวห่วย ร้านค้ารายย่อยให้อยู่รอดและมีอะไรได้เพิ่มขึ้น

พลเอกประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่เสริมสร้างโครงการนี้ให้ดีขึ้นและยั่งยืน ในการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเกิดผลตามเป้าหมายและห้วงเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งเรื่องการเมืองหรือประชาธิปไตยต้องให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางในการทำงาน

รัฐบาลชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ทำตามกรอบงบประมาณ และต้องคำนึงรายได้ของประเทศ แต่ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น เพราะทุกรัฐบาลต้องเสริมสร้างการเข้มแข็งของประชาชนจากภายใน เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและพ.ร.บ.การเงินการคลัง หากใครบอกจะทำโน้นนี่ หรือสัญญาว่าจะให้ แต่ไม่ได้บอกว่าที่มาของงบประมาณว่ามาจากไหน ถือว่าเป็นปัญหากับประเทศ และเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้ประเทศมีปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดินในอนาคต

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ทราบดีผู้รายได้น้อยมีความลำบาก ซึ่งเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง และทำให้บ้านเมืองกระสำระส่าย มาตลอด 4 ปีที่รัฐบาลดำเนินการโครงการต่างๆ อาจจะถูกใจและไม่ถูกใจบ้าง แต่ได้ดำเนินการตามกฏหมายจึงขอให้ร่วมมือกัน รวมถึงหลายคนไม่ชอบฟังอะไรทั้งสิ้น โดยชอบฟังแต่สั้นๆที่กินใจ ที่เกี่ยวกับ ความรัก ความสามัคคี และการแตกแยก ดังนั้นต้องรู้จักมีภูมิคุ้มกันมีเหตุผลมีผล หากไม่ฟังรัฐบาลเลยจะเกิดความขัดแย้งไปหมด และหากฟังคนไม่ดีทุกคนล้มเหลวกันไปหมด

ส่วนเรื่องประชานิยมนั้น ย่อมมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี เพื่อหวังผลทางการเมืองและรักษาอำนาจ แต่งบประมาณจะต้องใช้ไม่เกินตัว เพราะจะทำให้ทุกอย่างจะล้มละลายไปทั้งหมด โดยเฉพาะระบบการเงินการคลังของประเทศ ยืนยันรัฐบาลพยายามรักษารากฐานเพื่อรัฐบาลในอนาคต พร้อมยกตัวอย่าง 7 ประเทศ ที่มีรายได้ปานกลาง ที่ล้มละลาย เพราะเรื่องในลักษณะเดียวกันนี้ด้วย 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

• ก.พาณิชย์ร่วมกรุงไทยเปิดแอปฯ 'ถุงเงินประชารัฐ' ดึงร้านค้าย่อยรับรูดบัตรคนจน
• อย่าลืมใช้สิทธิ์ 'รฟม.' เปิดลงทะเบียนใช้วงเงิน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' เริ่ม 6 ก.ค.นี้
• ถอดรหัส คสช. อัด 1.2 แสนล้าน จาก 'ลงทะเบียนคนจน' ถึง 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ'