บริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอนซูมเมอร์ โปรดักส์ (ประเทศไทย) ส่งจดหมายแจ้งพนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ราว 1,400 คน ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2561 โดยเนื้อหาภายในจดหมายระบุว่า "บริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่ทำให้พนักงานเกิดความวุ่นวายและไม่สบายใจ" สืบเนื่องจากกรณีพิพาทเรื่องการเปลี่ยนวิธีปรับโครงสร้างเงินเดือนปี 2560 ซึ่งทางบริษัทและสหภาพฯ ได้เจรจากันแล้วหลายครั้ง และยังไม่อาจหาข้อยุติได้ แต่บริษัทฯ ย้ำว่าระบบการปรับขึ้นค่าจ้างที่นำเสนอไปนั้นเป็นระบบที่มีความจำเป็นในการพัฒนาและการเจริญเติบโตของบริษัทในอนาคต
ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้อ้างสิทธิปิดงานตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2560 เวลา 06.00 น.เป็นต้นมา และย้่ำว่าพนักงานจะไม่ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ จนกว่าทางบริษัทฯ และสหภาพฯ จะสามารถตกลงกันได้ ซึ่งช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2560-7 มกราคม 2561 พนักงานก็จะไม่ได้รับค่าจ้างเช่นกัน
บริษัทฯ ได้ยื่นเงื่อนไขต่อพนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ด้วยว่า หากผู้ใดประสงค์ที่จะขอกลับเข้าทำงาน บริษัทฯ จะคืนสิทธิสวัสดิการทั้งหมดและค่าจ้าง รวมถึงจะไม่หักค้าจ้างในวันที่พนักงานหยุดงานไป แต่พนักงานต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์การขอกลับเข้ามาทำงาน และส่งกลับไปยังบริษัทภายในวันที่ 7 มกราคม 2561 ส่วนพนักงานที่แจ้งความประสงค์จะกลับเข้ามาทำงาน บริษัทฯ จะจ่ายโบนัสให้ 7.2 เดือน พร้อมเงินพิเศษอีก 20,000 บาท ภายในวันศุกร์ 12 มกราคม เพื่อเป็นการขอบคุณและเป็นขวัญกำลังใจ
ด้านนายสมชาย ไชยมาตย์ รองประธานสหภาพแรงงาน มิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ เปิดเผยกับวอยซ์ออนไลน์ว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสหภาพแรงงานเพื่อหารือว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปต่อกรณีที่บริษัทฯ ส่งจดหมายแจ้งต่อพนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ โดยนายสมชายย้ำว่า "ทุกคนยังคงสภาพพนักงานบริษัท และสวัสดิการคงเดิมทุกอย่าง" โดยสวัสดิการที่พนักงานเคยได้รับรวมถึงค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการการเงิน เงินช่วยเหลือต่างๆ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และรางวัลพนักงานดีเด่นที่สะสมมาในแต่ละปี ซึ่งรางวัลคือสร้อยคอทองคำ แต่มียกเว้นเพียงอย่างเดียว คือค่าจ้างช่วงที่บริษัทปิดงาน บริษัทจะไม่จ่าย และถือว่าเป็นไปตามข้อกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ นายโนริคาสึ อิชิคาว่า ประธานบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริคฯ ออกหนังสือแจ้งขอใช้สิทธิปิดงานงดจ้าง หลังจากมีข้อพิพาทระหว่างนายจ้างกับพนักงาน ในประเด็นเรื่องการขึ้นเงินเดือนและโบนัส ซึ่งก่อนหน้านี้ สหภาพแรงงานฯ ได้มีข้อเรียกร้องกับบริษัท 10 ข้อ แต่มี 3 ประเด็นสำคัญที่บริษัทขอเปลี่ยนแปลง ได้แก่ หลักเกณฑ์การปรับค่าจ้าง ซึ่งเดิมคิดตามสัดส่วนเปอร์เซ็นต์จากฐานเงินเดือน และตามคะแนนการวัดผลงาน แต่ปีนี้บริษัทขอใช้วิธีจ่ายอัตราเดียวคือทุกคนจะได้ขึ้นเดือน 400 บาท
เรื่องที่ 2 คือ การหักค่าบำรุงสหภาพ ซึ่งเดิมบริษัทหักจากเงินเดือนพนักงานที่อัตรา 1% ของฐานะเงินเดือน แต่ของใหม่จะให้สหภาพฯ เรียกเก็บเงินส่วนหนึ่งจากพนักงานเอง และสุดท้าย (3) สภาพการจ้างงาน เดิมให้ทำงาน 2 กะ รอบกลางวันและรอบกลางคืน ซึ่งถ้าเกินเวลาพนักงานจะมีค่าล่วงเวลา (โอที) แต่ของใหม่ บริษัทให้แบ่งพนักงานเป็น 3 กะ ซึ่งจะทำให้พนักงานจะไม่มีโอกาสมีรายได้จากค่าล่วงเวลา
นายสมชายตั้งข้อสังเกตด้วยว่าท้ายแบบฟอร์มของบริษัทฯ ที่ต้องการให้พนักงานลงนามรับรองและส่งกลับไป มีข้อความระบุว่า "โดยให้เป็นสิทธิของบริษัท เป็นผู้พิจารณา" ซึ่งหมายความว่าบริษัทฯ จะเป็นผู้ตัดสินใจฝ่ายเดียวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทางสหภาพฯ ได้แจ้งไปยังพนักงานทุกคนไม่ให้กรอกแบบฟอร์มดังกล่าวโดยเด็ดขาด
อ่านเพิ่มเติม:
'มิตซูบิชิ อีเล็คทริค' ใช้สิทธิงดจ้าง สะเทือนรายได้พนักงาน 1,800 คน