อาบู โอไบดา โฆษกของกลุ่มอัล-กัสซาม แถลงผ่านวิดีโอที่ได้รับการเผยแพร่ ผ่านการออกอากาศทางช่องอัล-อักซอ สถานีโทรทัศน์ในเครือฮามาส ระบุว่า เนื่องจากอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศทั่วฉนวนกาซามาหลายวัน ส่งผลให้มี “เชลยอิสราเอล 22 คนถูกสังหาร” นอกจากนี้ โอไบดายังระบุเสริมอีกว่า มีนักโทษอิสราเอลประมาณ “200 คน” อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของกลุ่มอัล-กัสซาม ในขณะที่เชลยอีก 50 คนอยู่ภายใต้การคุมขังของกลุ่มชาวปาเลสไตน์อื่นๆ
ทั้งนี้ ในกรณีของตัวประกันชาวต่างชาติ โอไบดาไม่ได้ระบุจำนวนของผู้ถูกจับตัวโดยเฉพาะเจาะจง โดยโอไบดาให้เหตุผลของการไม่เปิดเผยตัวเลขตัวประกันชาวต่างชาติ ว่าเป็นไปเพื่อความปลอดภัย แต่ทางกลุ่มฮามาสให้คำรับรองว่า “นักโทษต่างชาติทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว ทันทีที่เงื่อนไขในสนามรบเอื้ออำนวย” นอกจากนี้ โอไบดายังเรียกตัวประกันชาวต่างชาติว่าเป็น “แขกอันเป็นที่ต้อนรับ” ของกลุ่มฮามาส และขอโทษสำหรับการคุมขังตัวประกันต่างชาติ
อย่างไรก็ดี ทางการอิสราเอลยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็น เกี่ยวกับประกาศในครั้งนี้ของกลุ่มฮามาส
ตามรายงานของสหประชาชาติ ในช่วงเวลา 10 วันหลังจากความขัดแย้งกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มชาวปาเลสไตน์ การทิ้งระเบิดและการปิดล้อมฉนวนกาซาของอิสราเอลยังคงดำเนินต่อไป โดยมีประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดในฉนวนกาซา ต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่น
ฉนวนกาซากำลังเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมอันเลวร้าย โดยประชาชนในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ในขณะที่น้ำ อาหาร เชื้อเพลิง และเวชภัณฑ์กำลังจะหมดลง พร้อมกันกับการที่อิสราเอลได้ประกาศ ให้พลเรือนในฉนวนกาซาทางตอนเหนือหลบหนีลงไปทางทิศใต้
การสู้รบในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มฮามาสเข้าดำเนินการปฏิบัติการพัดถล่มอัล-อักซอ เมื่อช่วงวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการโจมตีในหลายรูปแบบ รวมถึงการยิงจรวดและการแทรกซึมเข้าสู่อิสราเอลทางบก ทางทะเล และทางอากาศ โดยกลุ่มฮามาสระบุว่าการบุกรุกอิสราเอลในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการตอบโต้การโจมตีมัสยิดอัล-อักซอของเจ้าหน้าที่ยิว และการที่อิสราเอลเพิ่มการใช้ความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์
หลังจากการบุกโจมตีโดยกลุ่มฮามาส กองทัพอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการดาบเหล็ก เพื่อโจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา โดยนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีจำนวนชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล บนพื้นที่ฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 2,750 คน รวมถึงเด็ก 750 คน ในขณะที่ในอิสราเอล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,300 ราย
ที่มา: