สถานการณ์ต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น จากการที่มีรายงานว่ากองทัพสั่งตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศตั้งแต่ชั่วกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ซึ่งความคืบหน้านี้มีขึ้นหลังจากที่กองทัพสั่งเริ่มกวาดล้างจับกุมแกนนำผู้ชุมนุม และกลุ่มผู้เคลื่อนไหวอารยะขัดขืนต่อต้านรัฐประหาร

ข้อมูลจาก NetBlocks ผู้มอนิเตอร์การใช้งานอินเทอร์เน็ตระบุว่า มีการตัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในเมียนมา ส่งผลให้ช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศไม่สามารถเข้าใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีรายงานว่าบางส่วนสามารถกลับมาใช้งานอินเทอร์เน็ตได้แล้วเกือบในระดับปกติ แต่บางพื้นที่มีรายว่ายังคงไม่สามารถใช้งานได้

ความคืบหน้านี้มีขึ้นหลังจากที่คณะรัฐประหาร ลงนามคำสั่งยกเลิกมาตรา 5,7 และ 8 ของกฏหมายพิทักษ์ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของพลเรือน เป็นการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้ฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมหรือควบคุมตัวผู้ต่อต้านรัฐประหารได้เกิน 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องมีหมายจับหรือหมายค้น 

ขณะเดียวกันสื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า กองทัพสั่งระดมรถหุ้มเกราะออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนนในหลายเมือง ตั้งแต่นครย่างกุ้ง มิตจินา และซิตตเว ภาพจากสื่อเผยให้เห็นรถหุ้มเกราะจอดอยู่ด้านหน้าธนาคารกลางในนครย่างกุ้ง รวมถึงเขตธุรกิจใจกลางเมือง นับเป็นการเคลื่อนย้ายพาหนะของกองทัพในระดับมากที่สุด นับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา

แม้กองทัพระดมยุทโธปกรณ์เพื่อหวังควบคุมการต่อต้าน แต่ก็ไม่อาจทำให้ชาวเมียนมายุติการเคลื่อนไหวขับไล่เผด็จการทหาร โดยวันนี้มีรายงานว่าศึกษาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีหลายร้อยคน ยังคงรวมตัวประท้วงในเขตทางตอนเหนือเมืองย่างกุ้ง เช่นเดียวกับที่เมืองทวายทางตอนใต้ของประเทศ ภาพไลฟ์สตรีมมิ่งจากเฟซบุ๊กแสดงให้เห็นชาวเมียนยังคงเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารต่อเนื่อง

สะท้อนกองทัพประกาศสงครามประชาชน

การสั่งระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพ มีขึ้นพร้อมๆ กับการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ส่งผลให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนของการยกระดับมาตรการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร

ด้าน ทอม แอนดรูว์ ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติประจำเมียนมาแสดงความกังวลว่า ผู้นำกองทัพเมียนมากำลัง "ประกาศสงครามกับประชาชน" จากการใช้คำสั่งบุกค้นบ้านเรือนยามวิกาล รวมถึงการจับกุมผู้เคลื่อนไหวจำนวนมาก ตามมาด้วยการระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ต จนถึงการส่งทหารลงถนน ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณให้เห็นถึงความสิ้นหวัง ส่อให้เห็นถึงความจนตรอกของนายพลในกองทัพ แต่ผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายจงตระหนักว่าจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ นอกจากอองซาน ซูจี แกนนำพรรคเอ็นแอลดีแะลที่ปรึกษาแห่งรัฐแล้ว ปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลสำคัญของพรรคและคนใกล้ชิดของเธอกว่า 384 คนถูกควบคุมตัวตั้งแต่เกิดรัฐประหาร ข้อมูลจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองเผยว่า ส่วนใหญ่ถูกควบคุมตัวในยามวิกาล