พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวถึงการเตรียมการไปสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ว่า ต้องเตรียมการให้ความรู้ความเข้าใจ กฏกติกาการเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกพื้นที่อยู่ในความสงบ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้กำลังพลยืดมั่น กรอบหน้าที่ของทหารและตำรวจ ให้ประเทศและประชาชนมีความสงบสุข รวมถึงต้องมีจุดสมดุล เพื่อให้ความเข้าใจไม่คลาดเคลื่อน
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศมีความสงบ ไม่มีเดินขบวนประท้วง จนเจ้าหน้าที่รัฐเกิดปัญหา ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจดีขึ้น มีการตรากฏหมาย และคนก็เคารพกฏหมาย จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และย้ำจุดยืนของตำรวจและทหาร ว่าต้องทำให้ประเทศมีความสงบและประชาชนมีความสุข โดยตนไม่อยากจะพยากรณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคต ว่าจะมีวิกฤตกลับมาอีก ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาที่ก้าวหน้า และเตรียมการไปสู่ประชาธิปไตย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ย้ำว่า ยังไม่เห็นโอกาสของความไม่สงบ เพราะยังเห็นว่าสามารถแก้ไขด้วยวิธีการของกฏหมาย ที่ยังสามารถบังคับใช้ได้ หากตัดสินอะไรก็ต้องบนหลักความถูกต้อง ในจุดยืนที่เหมาะสม จึงไม่คิดว่าจะเกิดจลาจลเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารอากาศ ออกมาระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า หากบ้านเมืองกลับมาไม่สงบด้วยสถานการณ์ทางการเมือง อาจมีการปฏิวัติ ซึ่งเรื่องนี้ทั้ง 2 ท่าน พูดไปด้วยประสบการณ์ แต่ทุกวันนี้กฏหมายยังสามารถขับเคลื่อนได้ คนยังเคารพกฏหมายอยู่ และยังไม่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองและความขัดแย้ง ยังไม่ปรากฏนัยสำคัญน่ากังวล ซึ่งประชาชนอาจเกิดความสับสนและตื่นตระหนกในเรื่องดังกล่าวได้
สำหรับการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งที่ 1 วันนี้ ได้กำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการทำงานในปีงบประมาณถัดไปโดยเฉพาะเรื่องของการพิทักษ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์การปฎิบัติตามโครงการจิตอาสาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10
ดังนั้นจะปฏิบัติ 2 ภารกิจตามอำนาจหน้าที่ของกองทัพไทยในการพิทักษ์ปกป้องรักษาอธิปไตยของประเทศทั้งตามแนวชายแดน ทางบก ทางทะเล และทางอากาศตลอดจน การฝึกที่ในปี 2562 จะต้องมีการทำงานร่วมกับนานาชาติมากขึ้น ทั้งการฝึกคอปบร้าโกลและอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างให้กองทัพไทยมีความทันสมัยและเกิดการพัฒนากองทัพทางเทคโนโลยีในอนาคต
รวมถึง ภารกิจงานด้านความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งกองทัพไทย มีหน้าที่ในการสนับสนุนดำเนินนโยบายของรัฐบาล ทั้งการแก้ไขปัญหาแรงงาน ยาเสพติด และภารกิจ อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนภารกิจในงานด้านการต่างประเทศที่ในปี 2562 กองทัพจะต้องร่วมดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามภารกิจที่ประเทศจะต้องมีการประชุมสำคัญระดับรัฐบาลระดับกระทรวงและระดับเหล่าทัพภารกิจที่ 4 จัดการปัญหาภัยพิบัติโดยจะต้องนำประสบการณ์ในอดีตใช้ในการป้องกันและแก้ไขแบบบูรณาการ
นอกจากนี้ ในเรื่องของกำลังพลทางกองทัพไทยจะเน้นย้ำให้กำลังพลมีวินัยให้เป็นทหารและตำรวจ เป็นทหารและตำรวจอาชีพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนน่าจะพิทักษ์และปฏิบัติตามกฏหมายได้เป็นอย่างดี