ไม่พบผลการค้นหา
การเสียชีวิตของนักมวยวัย 13 ปี ทำให้เกิดการถกเถียงว่า ไทยควรมีกฎหมายห้ามการจัดชกมวยเด็ก แต่คนในวงการชี้ กรรมการตัดสินใจช้า-ไม่มีแพทย์ดูอาการ ทำให้เด็กเสียชีวิต ไม่เกี่ยวกับอายุน้อย ส่วนคู่ชกวัย 15 ปีถูกคุกคามในโลกออนไลน์

สื่อต่างประเทศรายงานข่าวการเสียชีวิตของ ด.ช.อนุชา ทาสะโก วัย 13 ปี หรือ 'เพชรมงคล ป.พีณภัทร' ซ่ึงเสียชีวิตหลังแข่งขันในรายการชกมวยเด็ก เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา และผลชันสูตรศพบ่งชี้ว่า ด.ช.อนุชา เสียชีวิตจากอาการเลือดคั่งในสมอง แต่เหตุที่เกิดขึ้นจุดกระแสให้คนในสังคมไทยถกเถียงกันว่าควรจะผ่านร่างกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีแข่งขันชกมวย ซึ่งคนในวงการมวยส่วนใหญ่คัดค้าน แต่ผู้รณรงค์ด้านสิทธิเด็กและบุคลากรการแพทย์ส่วนใหญ่สนับสนุนร่าง ก.ม.ดังกล่าว

ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า มวยเด็กเป็นกีฬาที่มีการจัดแข่งขันกันอย่างแพร่หลายในไทย โดยเฉพาะในชนบท เนื่องจากมวยเด็กเป็นหนทางหารายได้มาจุนเจือครอบครัวที่ยากจน รวมถึงเป็นหนทางในการยกระดับฐานะของตัวเอง แต่ฝ่ายต่อต้านมวยเด็กมองว่า มวยเด็กเป็นกีฬาที่อันตราย โดยงานวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัยมหิดลเพิ่งออกมา บ่งชี้ว่า การอนุญาตให้เด็กต่ำกว่าอายุ 15 ปีต่อยมวยจะสร้างผลกระทบต่อสมองหลายด้าน

พล.อ. อดุลยเดช อินทะพงษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติระบุว่า สนช.กำลังการพิจารณากฎหมายแบนเด็กอายุต่ำกว่าอายุ 12 ปีแข่งขันกีฬามวย และมีการส่งกฎหมายนี้ไปให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาทบทวนกฎหมาย

ด้านนายสุกฤษฎิ์ แพรกรีฑาเวศน์ ทนายความของค่ายมวยหลายแห่งระบุว่า การแบนมวยเด็กจะกระทบกับอุตสาหกรรมมวย คนที่ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่มีความรู้เกี่ยวกับมวยไทย และกฎหมายนี้จะทำให้มวยไทยสูญหายไป เพราะหากไม่อนุญาตให้เรียนรู้มวยตั้งแต่เด็ก นักมวยจะไม่แข็งแรงและไม่มีประสบการณ์พอจะลงแข่ง

นายสุกฤษฎิ์ยังระบุว่า การเสียชีวิตของนักมวยเด็กวัย 13 ปีเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น โดยอธิบายว่าการเสียชีวิตมาสาเหตุมาจากหลายปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับอายุของเด็ก แต่กรรมการตัดสินใจไม่ไวพอที่จะสั่งยุติการต่อสู้ และเวทีดังกล่าวก็ไม่มีแพทย์ประจำอยู่ข้างเวที

(ผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากวิจารณ์ในหน้าเพจ 'มวยไทย ครบวงจร' ต่อว่ากรรมการที่ดูแลการแข่งขันของ เพชรมงคล ป. พีณภัทร ตัดสินใจช้า ไม่สังเกตอาการของเด็ก และไม่สั่งยุติการชก)

เอพีรายงานว่า นักมวยเด็กอายุ 13 ปีคนนี้ขึ้นชกมาแล้วมากกว่า 170 นัด ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยมีลุงเป็นผู้เลี้ยงดู และฝึกมวยให้ หลังพ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน แต่เมื่อหลานชายเสียชีวิต ลุงได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยพีบีเอสว่า การเสียชีวิตครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ แต่เขาก็อยากให้มีการออกกฎเกณฑ์บังคับให้นักมวยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีสวมเครื่องป้องกันศีรษะและลำตัว

ด้าน 'ทวี อัมพรมหา' หรือ 'ขาวผ่อง สิทธิชูชัย' อดีตนักชกเหรียญเงินโอลิมปิกเมื่อปี 2527 ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยกับกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีชกมวย เนื่องจากตัวเองก็เป็นคนหนึ่งที่ฝึกมวยมาตั้งแต่อายุยังน้อย พร้อมระบุว่า นักมวย 99 เปอร์เซ็นต์ที่มีชื่อเสียงก็ฝึกฝนตั้งแต่ยังเด็กเช่นกัน เพราะการฝึกฝนมวยตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยเพิ่มประสบการณ์

ทวีระบุว่า เขาเริ่มแข่งชกมวยตั้งแต่อายุ 12 ปี และขึ้นชกกว่า 200 นัด จึงตั้งคำถามว่า การจัดชกมวยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ซึ่งเป็นเหตุให้ ด.ช. อนุชาเสียชีวิต มีมาตการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจก็คือมาตรการด้านความปลอดภัย รวมถึงแพทย์สนามที่จะต้องเตรียมพร้อมในทุกนัด

AFP-นักมวบเด็กเสียชีวิต-อนุชา ทาสะโก-เพชรมงคล ป.พีณภัทร-สรรรัฐยิม-งานศพนักมวยเด็ก.jpg

(พิธีศพของ อนุชา ทาสะโก หรือ เพชรมงคล ป.พีณภัทร ถูกจัดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ)

ขณะที่คู่ชกวัย 15 ปี ซึ่งใช้ชื่อในวงการชกมวยว่า 'ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ' โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าจะขอเปิดประมูลกางเกงชกมวยที่ใส่เมื่อวันที่ 12 พ.ย. เพื่อนำเงินที่ได้ทั้งหมดไปมอบให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนจะเดินทางไปร่วมพิธีศพเพื่อขอขมา แต่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์จำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นเชิงประณามที่ฟ้าใหม่ชกซ้ำคู่ต่อสู้ ทั้งที่อีกฝ่ายดูอาการไม่ค่อยดี ทั้งยังมีผู้ประณามเขาว่า 'ฆาตกร' อีกด้วย

ขณะเดียวกันก็มีผู้ออกความเห็นเชิงให้กำลังใจแก่ฟ้าใหม่ โดยระบุว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

ส่วนผลการวิจัยของแพทย์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยมหิดล และเครือข่ายคุ้มครองเด็ก ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา อ้างอิงการสำรวจและเก็บข้อมูลอาการบาดเจ็บในสมองของนักมวยเด็กโดยอ้างอิงผลการ MRI สมองของนักมวยเด็ก 323 คน เปรียบเทียบกับเด็กทั่วไปที่ไม่ได้ชกมวย 253 คน พบว่า นักมวยเด็กจะประสบกับภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย และระบบประสาทเสียหายมากกว่าเด็กที่ไม่ได้ชกมวย

ขณะที่ไอคิวหรือระดับสติปัญญาของนักมวยเด็กที่ขึ้นชกมากกว่า 5 ปี จะอยู่ที่ประมาณ 84 คะแนน ซึ่งไอคิว 80-89 คะแนนจะสามารถเรียนได้จนจบชั้น ม.ปลายเท่านั้น แต่ไอคิวของเด็กไทยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 90-110 คะแนน ซึ่งจะสามารถเรียนจนจบอนุปริญญาหรือปริญญาตรีได้

ที่มา : AP/ AFP

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

อนุชา ทาสะโกนักมวยเด็กที่เสียชีวิตในการแข่งขันเมื่อ 12 พ.ย.2561
ทวี อัมพรมหาขาวผ่อง สิทธิชูชัย นักมวยเหรียญเงินโอลิมปิกเมื่อปี 2527