วันที่ 31 มี.ค. 2563 เวลาประมาณ 01.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อัษฎไนย ป้องกัน ผกก.สภ.คูเมือง พ.ต.ท.มานิตย์ สร้อยจิตร รอง ผกก.ป.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ร.ต.อ.สุวัฒน์ นามมงคล สว.กก.สส.1 บก.สส.ภ.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,สภ.คูเมือง ,สภ.เมืองบุรีรัมย์, กก.สส.1 บก.สส.ภ.3 ,กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และฝ่ายปกครอง อ.คูเมือง สนธิกำลังร่วมกันติดตามจับกุม นักโทษชาย ธัณยพงศ์ สินพูน ซึ่งเป็น 1 ในจำนวนผู้ต้องขังที่ร่วมกันก่อเหตุจลาจล เผาเรือนจำ และหลบหนีออกจากเรือนจำ เมื่อช่วงสายของวันที่ 29 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา
ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวนักโทษชายที่ร่วมกันก่อเหตุ และหลบหนีออกจากเรือนจำได้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียง นักโทษชาย ธันยะพงศ์ ยังคงหลบหนีอยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามเรื่อยมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่าช่วงสายของวันที่ 30 มี.ค. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบบุคคลต้องสงสัยคล้ายกับ นักโทษชายที่เหลืออีก 1 คน ที่ยังหลบหนีการจับกุม มาอยู่บริเวณป่าใกล้กับลำคลองคูเมืองโบราณของหมู่บ้านโนนเมือง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักโทษชายคนดังกล่าวชุดจับกุมจึงจัดกำลังปูพรมค้นหา กระทั่งพบรถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่ นักโทษชาย ได้ขโมยมาจากหอพักใกล้กับเรือนจำบุรีรัมย์ ขณะหลบหนีถอดทิ้งไว้ ชุดจับกุมจึงได้วางกำลังดักรอบหมู่บ้านโนนเมือง และหมู่บ้านใกล้เคียง รวมถึงจัดชุดเดินเท้าสำรวจตามหมู่บ้าน ป่า ทุ่งนา และไร่อ้อยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่ก็ยังไม่พบวี่แววของ นักโทษชาย ธันยะพงศ์
จนเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 31 มี.ค. ชุดจับกุมสืบทราบว่าพบบุคคลต้องสงสัยคล้ายกับ นักโทษชาย ธันยะพงศ์ ไม่สวมเสื้อ สักเต็มตัว นุ่งกางเกงขาสั้น เดินเท้ามาอยู่ในละแวกบ้านผักกาดหญ้า ต.พรสำราญ อ.คูเมือง ซึ่งอยู่ติดถนนสายบุรีรัมย์-พุทไธสง และอยู่ห่างจากจุดที่ นักโทษชาย ธันยะพงศ์ จอดรถจักรยานยนต์ และถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ประมาณ 3 กิโลเมตร ชุดจับกุมจึงได้ปูพรมค้นหากระทั่งพบตัว นักโทษชาย ธันยะพงศ์ แอบซุกซ่อนตัวอยู่ข้างพุ่มไม้ข้างถนนสายบุรีรัมย์-พุทไธสง ช่วงบ้านผักกาดหญ้า ต.พรสำราญ อ.คูเมือง ในสภาพอิดโรย จึงเข้าทำการควบคุมตัว ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวน และควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังของ สภ.คูเมือง เพื่อเตรียมนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน นักโทษชาย ธันยะพงศ์ ให้การยอมรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนเองพร้อมกลุ่มนักโทษ ได้ทำการทุบกำแพงพร้อมตัดกรงเหล็ก ออกมาจากบริเวณช่องทางเยี่ยมญาติของเรือนจำบุรีรัมย์ แล้วพากันวิ่งหลบหนีข้างกำแพงเรือนจำ วิ่งอ้อมไปทางด้านหลังเรือนจำ พอไปถึงโรงแรมหรือหอพักได้พากันเข้าไปขโมยเสื้อผ้า และรถจักรยานยนต์ขับหลบหนี โดยได้แยกย้ายกันหลบหนี ระหว่างนั้นตนเองวิ่งตกลงไปในบ่อระเบิดหิน และได้หลบซ่อนตัวอยู่ในนั่น รอจนประมาณเที่ยงคืน ตนจึงปีนขึ้นมาจากบ่อระเบิดหิน แล้วไปเอารถจักรยนต์ที่จอดทิ้งไว้บริเวณหอพักของน้องสาว ที่หมู่บ้านโคกเขา ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ที่ตนได้ฝากไว้ก่อนถูกจับกุม แล้วขับหลบหนีมุ่งหน้ามาที่หมู่บ้านโนนเมือง ซึ่งเป็นบ้านเกิด โดยได้ซุกซ่อนตัวอยู่ในป่า ช่วงสายทราบว่ามีตำรวจมาติดตามจับกุมตัว จึงได้จอดรถจักรยานยนต์ และถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ และเดินหลบหนีซุกซ่อนตัวอยู่ตามป่า และทุ่งนาเรื่อยมา จนถึงหมู่บ้านผักกาดหญ้า และมาถูกจับกุมตัวได้
นักโทษชาย ธันยะพงศ์ บอกด้วยว่าเหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ ตนทราบเพียงว่าก่อนหน้านี้ได้มีขาใหญ่ในเรือนจำ ไปพูดคุยกันว่าจะทำการแหกคุกในวันที่ 29 มี.ค. 2563 โดยในระหว่างที่ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ เห็นเพื่อนนักโทษลุกฮือก่อเหตุจลาจล ตนจึงได้ไปร่วมกับเพื่อนนักโทษช่วยกันทุบทำลายกำแพงประตู และตัดกรงเหล็กแล้วทำการหลบหนี
ทั้งนี้สำหรับ นักโทษชาย ธันยะพงศ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ จับกุมตัวได้พร้อมกับแฟนสาว ที่หมู่บ้านโคกเพชร ต.พรสำราญ อ.คูเมือง ได้พร้อมของกลางยาบ้า 1,000 กว่าเม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง อาวุธปืนพกสั้นขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนอีกกว่า 100 นัด โดยขณะทำการจับกุม นักโทษชาย ธันยะพงศ์ ทำการต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้รับบาดเจ็บถึง 3 นาย นอกจากนี้ นักโทษชาย ธันยะพงศ์ ยังเคยต้องโทษในคดียาเสพติดมาแล้ว และเพิ่งพ้นโทษมาได้เมื่อประมาณต้นเดือนม.ค. 2563 ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกจับกุมอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง