รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ส.ค. 2563 ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง ที่อยู่ในพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในส่วนของรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 11,800 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินการโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอ
ทั้งนี้ เป็นการอนุมัติเพิ่มเติมจากที่ ครม.ได้อนุมัติไปก่อนนี้แล้ว เนื่องด้วย สนทช.ได้ประเมินสถานการณ์น้ำต้นทุนและคาดการณ์การสถานการน้ำเพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำ ปี 2562/2563 พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวม 69 จังหวัด แบ่งเป็น เขตประปา จำนวน 31 จังหวัด นอกเขตประปา 38 จังหวัด และมีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร รวม 56 จังหวัด แบ่งเป็นในเขตประปา จำนวน 36 จังหวัด นอกเขตประปา 20 จังหวัด
สำหรับโครงการที่ได้รับการอนุมัติครั้งนี้ยังคงเป็นไปเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน สทนช.จึงได้บูรณาการการทำงานกับหลายกระทรวง กำหนดเป็นโครงการเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในสภาวะปัจจุบัน ซึ่งเป็นการดำเนินงานครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ มีลักษณะงาน เช่น ขุดลอกและปรับปรุงแหล่งน้ำเดิม ขุดแหล่งเก็บน้ำใหม่ งานซ่อมแซมและปรับปรุง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำและวัชพืช การจัดครุภัณฑ์ บ่อน้ำบาดาล เป็นต้น
โดยสามารถจำแนกออกตามหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ 5 หน่วยงาน ดังนี้
1.กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 8 โครงการ งบประมาณรวม 763.14 ล้านบาท ดังนี้
2.กระทรวงมหาดไทย จำนวน 2 โครงการ งบประมาณรวม 1 หมื่นล้านบาท ดังนี้
3.กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 โครงการ งบประมาณรวม 884.5 ล้านบาท ดังนี้
4.กองทัพบก กระทรวงกลาโหม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการขุดลอกแก้มลิงภายในชุมชนรถไฟ งบประมาณ 5.8 ล้านบาท
5.กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการจัดหาครุภัณฑ์เรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืช จำนวน 17 รายการ งบประมาณ 146.1 ล้านบาท
รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อดำเนินโครงการแล้วเสร็จจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทั่วประเทศและสามารถเก็บกักน้ำในฤดูฝนปี 2563 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการลงทุนภาครัฐโดยการช่วยกระตุ้นการซื้อวัสดุและจ้างแรงงานในแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: