ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ขอโทษ ดราม่าโยนปากกา ถ้าภาพออกไปแล้วประชาชนไม่สบายใจ เข้าใจเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องปรับตัว เผยปากกาหมึกมันหมด จดปัญหาพี่วินไม่ทัน หวั่นตอบคำถามการแก้ปัญหาเขาไม่ได้ แจงปรับปรุงที่ทำงานสื่อมวลชน ต้องการให้ “รัฐบาล-สื่อ” ทำงานร่วมกัน

วันที่ 4 ก.ย. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปรับทัศนียภาพทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะสถานที่ทำงานผู้สื่อข่าว หรือ รังนกกระจอก 1 หลังมีกระแสข่าวจะทำเป็นประชุม ว่า จริงแล้วๆเมื่อวานเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ไปดูห้องทำงาน ของว่าที่รองนายกฯแต่ละคน และห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ส่วนข่าวลือว่าจะไปรื้อห้องทำงานสื่อมวลชนหลังเก่านั้น จะใช้คำว่ารื้อเลยก็ไม่ใช่ แต่ตนเองไปรับฟังว่าใครอยู่ตรงไหน ที่นั่งของสื่อมวลชน มีอยู่ 2-3 ที่ จึงต้องการทำให้ดีขึ้น ขอใช้คำว่าปรับปรุงจะดีกว่า เพื่อทำให้ฝ่ายบริหารเข้าถึงสื่อมวลชนให้ดีขึ้น จะไปปรุงรูปแบบบางอัน แต่ยืนยันว่าสื่อมวลชนจะดีขึ้น แต่คงปรับไม่เยอะ เมื่อวานมีเวลาแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งที่ได้เดินดู ต้องลองเข้าไปใช้งานจริงก่อน แต่เชื่อว่าลักษณการทำงานหลายคนก็ไม่เหมือนกัน วิธีการนั่ง วิธีการเรียกประชุม หลายอย่างจึงต้องเข้าไปดูก่อน นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ตนเองไม่เคยใชคำว่าจัดระเบียบ แต่ใช้คำว่าไปดูการใช้ชีวิตสื่อมวลชน แต่ยืนยันว่า หากเปลี่ยนแปลงแล้วทุกอย่างต้องดีขึ้น 

“ไม่ใช่ไปจัดระเบียบ ผมไม่เคยใช้คำเหล่านี้เลย ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนใช้ ไม่มีแน่นอน ขอให้สื่อมวลชนที่นั่งอยู่ในรังนกกระจอก 1 สบายใจได้ แต่เห็นว่า มีที่นั่งของสื่ออยู่ 2-3 ที่ จะไปทำให้ดีขึ้น เท่าที่ดู ก็ยังไม่เห็นสบายเท่าไหร่ ฝ่ายบริหารจะเข้าถึงประชาชนก็ต้องเข้าถึงสื่อมวลชน ไม่ว่าใครในคณะทำงาน ทั้งรองนายกฯ​ รัฐมนตรี และ ที่ปรึกษา ก็อยากให้มาทำงานและนั่งคุยกับสื่อมวลชนได้ ถ้าเกิดอยากทำนะครับ แต่ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร ถ้าอยากมีที่ของตัวเอง”

โดยนายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธข่าวลือ ที่จะให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา มาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าไม่ทราบ แต่มีความรู้จักสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว แต่ยังไม่เคยพูดคุยกันเรื่องมาช่วยงาน 

ส่วนความคืบหน้า เรื่องการแถลงนโยบายได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว กำลังส่งพิมพ์ ซึ่งจะต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีเดียจับผิดเรื่องการโยนปากการะหว่างจดปัญหาของกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ เมื่อวันเสาร์ และถูกมองว่าเป็นคนขี้โมโห นายกฯ ขอว่า อย่าไปใช้คำว่าจับผิด ภาพที่บ่งบอกไป อาจจะบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ผมอยากจะขอโทษ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไม่พอใจอะไร เพียงแต่วินมอเตอร์ไซค์มีหลายประเด็น ต้องรีบจด ไม่งั้นเราตอบคำถามเขาไม่ได้ เขียนไปหมึกมันหมด ก็เลยบอกว่า หมึกปากกาหมด ผมไม่ได้ขว้าง เพียงแต่ปล่องมันวางลงบนโต๊ะ เข้าใจว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ต่อไปนี้ต้องระมัดระวัง ภาพที่ออกแม้ว่าจะไม่ได้สะท้อนความรู้สึกจริงๆของเราเอง แต่คนที่ดูอยู่ อาจจะเข้าใจเราผิดได้ จึงอยากจะขอโทษ และจะระมัดระวังตัวให้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามนายกฯ ว่า รอบหน้าจะต้องเตรียมปากกาไว้ให้เยอะหรือไม่ เศรษฐา ตอบว่า คงจะต้องเตรียมไว้หลายด้ามเหมือนกัน แต่ส่วนตัวไม่ชอบปากกาที่กดด้านข้าง ชอบปากกาที่กดด้านบนลงมา เพราะเขียนเดี๋ยวก็มันจะหล่น แต่คงต้องเตรียมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องกระดาษ และแผ่นรองเขียนด้วย 

ส่วนวันพรุ่งนี้ (4 กย.) จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 10.00 น. หมายกำหนดมาให้ไปถึงทำเนียบ 10.30 น. แต่จะต้องเข้าไปถึงก่อนเพื่อเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะนำ ครม.เข้าถวายสัตย์ในเวลา 14.00 น.


'เศรษฐา' แจงฟังความเห็น 'ผบ.เหล่าทัพ'

เศรษฐา กล่าวว่า วันนี้มีภารกิจหลายอย่างที่ต้องทำ วันจันทร์ต้องคุยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต รวมถึงพบปะกับหลายภาคส่วน ขณะที่เวลา 12.00 น. จะกินข้าวเที่ยงกับ 16 รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้นั่งคุยกันเรื่องนโยบายและวิธีการทำงานของรัฐบาลต่อจากนี้ หลังจากที่ก่อนหน้าเจอกันแค่ผิวเผิน ส่วนการร่วมรับประทานอาหารกับว่าที่ผู้นำเหล่า ที่โรงแรมโรสวูด เมื่อเที่ยงวานนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น เก็บข้อมูล และรับฟังความคิดเห็นกันและกัน เสียดาย ขาดเพียงว่าที่ ผบ.ทอ. แต่ก็ได้พบกันแล้ว ทั้งนี้ได้ฟังความคิดเห็นที่จะทำให้ลดช่องว่าง ระหว่างทหารกับประชาชน รวมถึงอีกหลายเรื่อง ว่าทหารได้ขับเคลื่อนเรื่องไหนไปแล้วบ้าง 

ส่วนนโยบายสมัครใจเกณฑ์ทหารนั้น เศรษฐา เปิดเผยว่า ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด รอการแถลงร่วมกันของรัฐบาลกับกองทัพจะดีกว่าหลังจากที่เข้าบริหารราชการ เมื่อวานเป็นเพียงการพูดคุยกันเบื้องต้น หาก สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้เข้าพบผู้นำเหล่าทัพอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

ส่วนงบประมาณในกองทัพ ยังไม่ได้คุยกันไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่นเดียวกันกับการที่จะเข้าไปกำกับดูแล กอ.รมน. ยอมรับว่าตนเองไม่ถนัด จึงต้องฟังความคิดเห็น มีหลายเรื่องที่ตนเองไม่ทราบขอบเขตการทำงานของทหารว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จาก ผบ.เหล่าทัพทุกท่าน อธิบายเนื้องาน และ รายละเอียดให้เข้าใจ

ขณะที่ในการร่วมประชุมสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 18-23 กันยายน นั้น พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี จะร่วมเดินทางไปประชุมด้วย เพราะจะต้องมีการเจรจาเรื่องความมั่นคงกับสหรัฐอเมริกา ส่วนการปรับเรื่องการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจร่วมกันกับกองทัพนั้น เรื่องนี้เห็นว่า ระหว่างกองทัพกับประชาชน ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เพียงแต่ที่ผ่านมา กองทัพทำอะไรดีที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้รับการชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา จึงอยากเข้าไปช่วยดู ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะน่าเสียดาย กองทัพทำอะไรดีไว้เยอะ แต่คนไม่ค่อยรู้ จึงอยากให้ความเป็นธรรมกับกองทัพ หากปรับเรื่องการสื่อสารให้ดีขึ้น ประชาชนจะได้ทราบเรื่องดีๆที่กองทัพทำ

ส่วนแนวคิดเรื่อง ให้ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้ความสามารถของกองทัพมาช่วยงาน ก็ยังไม่หารือกันเรื่องนี้ เป็นเพียงการฟังความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งจะต้องมาหาข้อสรุปและประชุมกันอีก ยืนยันว่าการรับประทานอาหารร่วมกันเมื่อวาน เป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นร่วมกันเท่านั้น ไปทำความรู้จัก เพราะไม่เคยเจอกันกับบางท่าน ยืนยันว่ายังไม่คุยเรื่องงบประมาณ รวมถึงเรือดำน้ำ ก็ยังไม่มีการพูดคุยบนโต๊ะรับประทานอาหารนี้