ไม่พบผลการค้นหา
สปส.จ่ายเงินกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย จากโควิด-19 ล็อตแรกแล้ววันนี้ 8,000 ราย จากผู้ผ่านการคัดกรอง 4 แสนราย ยันมีเงินกองทุนประกันสังคมในส่วนกรณีว่างงาน 1.6 แสนล้านบาท หากไม่พอพร้อมจัดสรรงบประมาณจากกระทรวงให้เพิ่ม

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าการจ่ายเงินทดแทนกรณีว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวินิจฉัย อันเกิดจากโรคระบาดติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563 ซึ่งจะให้ประโยชน์ทดแทนกับลูกจ้างผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือแรงงานที่มีนายจ้าง ว่า หลังจากได้ลงนามในกฎกระทรวงและประกาศ ราชกิจจานุเบกษา กรณีการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัย อันเกิดจากโรคระบาดติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ พ.ศ.2563 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ซึ่งมีการประเมินว่าจะมีลูกจ้างผู้ประกันตนอยู่ในข่ายได้รับสิทธิ 11 ล้านคน แต่จำนวนแท้จริงจะต้องรอประเมินหลังจากนี้อีก 1-2 สัปดาห์ โดยในวันแรกวันนี้ (20 เม.ย.) ได้มีการจ่ายเงินล็อตแรกให้กับผู้ประกันตนที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิแล้ว แล้ว 8,000 ราย 

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประกันตนมาตรา 33 มาลงทะเบียน ขอใช้สิทธิจำนวนกว่า 8 แสนราย เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบสิทธิผ่านแล้วจำนวนกว่า 4 แสนคน ส่วนอีกกว่า 4 แสนคน รอนายจ้างมาแจ้งรับรองสิทธิ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้ระดมเจ้าหน้าที่จากทุกส่วนงานมาช่วยดำเนินการเพื่อสามารถทยอยจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายได้รับสิทธิสามารถได้รับเงินได้อย่างรวดเร็ว 

ทั้งนี้ ขอให้นายจ้างหรือผู้ประกอบการรับรองการเป็นลูกจ้างและการหยุดกิจการ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาให้เร็วขึ้น โดยในวันแรกนี้ได้มีการโอนเงินวันแรก 8,000 คน และจะทยอยจ่ายให้กับผู้ประกันตนได้รับการพิจารณาแล้วว่ามีสิทธิตามกฎหมาย 

โดยย้ำว่า ผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายได้รับการเยียวยาในครั้งนี้ ต้องมีคุณสมบัติ ประกอบด้วย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ยังไม่ถูกเลิกจ้างหรือยังไม่ลาออกแต่ไม่ได้รับค่าจ้าง เนื่องจากหยุดกิจการตามคำสั่งรัฐหรือหยุดกิจการเอง ส่วนกรณีนายจ้างลดวันทำงานและจ่ายค่าจ้างครึ่งหนึ่ง จะไม่เข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิเงินทดแทนการขาดรายได้ ซึ่งเมื่อวินิจฉัยคุณสมบัติแล้วก็จะแจ้งให้ผู้ประกันตนทราบผลว่าได้รับสิทธิหรือไม่ หากไม่ได้รับสิทธิก็สามารถอุทธรณ์ได้ใน 30 วัน 

ส่วนวิธีการยื่นขอใช้สิทธิผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.การยื่นขอรับผ่านช่องทางออนไลน์หน้าเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หัวข้อขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน online (e-form for sso benefits) โดยผู้ประกันตนต้องกรอกแบบขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย 

2.การยื่นขอรับด้วยวิธีปกติ ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดแบบขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) ที่หน้าเว็บไซต์ www.sso.go.th เพื่อพิมพ์แบบออกมากรอกข้อมูลพร้อมสำเนาหน้าบัญชีธนาคาร จัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ตอบรับ หรือส่งเอกสารทางโทรสาร (fax) ของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา หรือทาง e-mail ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขากำหนด หรือส่งทาง LINE ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขากำหนด สำหรับ

ในส่วนของนายจ้างต้องกรอกแบบรับรองการปิดกิจการจากเหตุโควิด-19 โดยผ่านช่องทางออนไลน์หรือวิธีการติดต่อกับสำนักงานประกันสังคมดังกล่าวข้างต้น 

ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมพร้อมระบบรองรับจำนวนผู้ประกันตนที่อาจจะมาลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้ามีผู้ประกันตนบางส่วนทยอยลงทะเบียนแล้ว และช่วงหลังคาดว่าจะเบาลง ดังนั้น คาดว่าไม่มีประเด็นเรื่องระบบล่ม

ส่วนงบประมาณที่นำมาใช้ในครั้งนี้ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมในการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนทุกคน ในปัจจุบันเงินกองทุนประกันสังคมในส่วนของกรณีว่างงานมีอยู่จำนวน 1.6 แสนล้านบาท สำนักงานได้เตรียมสภาพคล่อง พร้อมจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ทันทีที่ตรวจสอบสิทธิเรียบร้อย

แต่อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีก็ยังได้มีมติให้กระทรวงแรงงานเตรียมความพร้อมจัดทำแผนการเงินเพื่อรองรับในกรณีที่มีคนขอรับสิทธิประโยชน์ในกรณีว่างงานเป็นจำนวนมากในกรณีจำเป็นอาจต้องขอรับจัดสรรงบประมาณสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ก็สามารถจัดทำแผนขอรับเงินในส่วนนี้ได้

สำหรับกรณีผู้ประกันตนเรียกร้องให้จ่ายเงินบำนาญชราภาพก่อนถึงอายุ 55 ปีนั้น เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ในส่วนนี้ต้องช่วยกันคิด ค่อยๆ กันพิจารณา ซึ่งเข้าใจผู้ประกันตนมีความยากลำบากในการดำรงชีวิต และอยากได้ในสิ่งที่ได้สะสมไว้ออกมาเยียวยา อย่างไรก็ตาม ขอให้ความมั่นใจว่า เงินทุกบาทที่อยู่ในสำนักงานประกันสังคมจะยังคงอยู่ในระบบและเป็นของผู้ประกันตน และดูแลในส่วนที่เข้ามาอยู่ในสำนักงานประกันสังคม