วันที่ 8 ธ.ค. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ 21 สส. เทียบเชิญให้ลงสมัครหัวหน้าพรรคว่า เป็นสิ่งที่ต้องคิดมากที่สุด และสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่า นับแต่การเลือกตั้งจบ ตนไม่เคยแสดงความกระสันว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรค แค่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าต่อ ดังนั้นต้องคุยกับกลุ่มที่เขาเสนออีกครั้งหนึ่ง
เฉลิมชัย ยืนยันว่า ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้มีการเชิญ สส. ไปร่วมทานข้าวที่บ้านเลย เนื่องจากต้องเดินทางไปทำธุรกิจที่ประเทศจีนอยู่ตลอด และคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดคือ วทันยา บุนนาค ผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกคนหนึ่ง เพราะพูดคุยกันอยู่ตลอด
ดังนั้น ตนจึงอยากให้สังคมได้รับรู้ถึงสิ่งที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนมองว่า บ้านหลังนี้ (พรรคประชาธิปัตย์) เป็นบ้านของตน จึงอยากให้บ้านนั้นเดินหน้าต่อไป แต่มีหลายเรื่องเป็นการภายใน มันมีเหตุ และผลของมัน
เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า การจะเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ไม่ใช่แค่เทียบเชิญมาเพราะรักพรรคเท่านั้น จึงขอให้สื่อมวลชนก่อนที่จะนำเสนอข่าวอะไรให้ใช้ความคิดกันก่อน เพราะ 2 วันที่ผ่านมาตั้งแต่มีการเสนอข่าวก็โดนด่าฟรีไปเยอะแล้ว
“ผมเป็นผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ในรอบ 30 ปีนี้ คนที่เคยเลือก หรือไม่เคยเลือก ให้ลองมองดูว่า มีใครกล้าเอาชีวิตมาถวายให้พรรคแบบผมหรือไม่ ผู้บริหารพรรคคนไหนกล้าทำแบบผมไหม” เฉลิมชัย กล่าว
เฉลิมชัย มองอีกว่า ตอนนี้มีการพยายามเบี่ยงประเด็นไปถึงการที่ตนเคยประกาศว่าจะเลิกเล่นการเมืองเพราะอวดดี หรืออยากดัง แต่ส่วนตัวยังยืนยันว่า ตนใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อปกป้องพรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากให้มองพรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กรหนึ่ง อย่ามองว่า เป็นกลุ่มอนุรักษนิยม ให้ทุกคนมองด้วยใจเป็นกลางแล้วจะเห็นความจริง
เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ตนเล่นการเมืองไม่เก่ง พูดไม่มาก เป็นคนที่อย่างไรก็อย่างนั้น แต่สิ่งที่มีคือความจริงใจให้กับพรรค การที่น้องๆ สส. เขานับถือตน ถือว่าเป็นความผิดใช่หรือไม่ และตนมีตรงไหนบ้างที่เสียหาย
เฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนกล้าพูดว่า ตนเป็นรัฐมนตรีที่สุจริต และไม่เคยแตะเงินโสโครก และเมื่อถึงเวลาแล้วจะชี้แจงเอง ตอนนี้ขอให้คุยก่อน พร้อมย้ำว่า มันต้องมีเหตุ และผล บางเรื่องเป็นเรื่องภายในที่พูดภายนอกไม่ได้
//////