ไม่พบผลการค้นหา
'ชัยชนะ' ยืนยัน 9 ธ.ค. นี้ได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แน่นอน พรรคเปิดกว้างให้ทุกคนแข่งขัน เผยเย็นนี้มีประชุม สส.และผู้ใหญ่ เชื่อมีผลต่อการโหวต

วันที่ 7 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ โดยระบุว่า จะได้หัวหน้าพรรคที่แท้จริงเนื่องจากได้เตรียมองค์ประชุมไว้พร้อมแล้วหากขาดอีกก็จะเติมจนครบ ส่วนผู้สมัครหัวหน้าพรรคนั้น เรื่องจาก พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง สมาชิกจึงเปิดกว้างให้โอกาสทุกคนลงเลือกตั้ง แม้ผู้สมัครบางคนจะติดเงื่อนไขเป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปี แต่เชื่อว่า สมาชิกจะให้โอกาส ลงแข็งขันด้วยเช่นกัน 

ส่วนที่มีการประเมินว่า วทันยา บุนนาค ผ่านด่าน 3 ใน 4 แล้ว ก็จะสามารถนั่งเป็นหัวหน้าพรรคได้แน่นอน ชัยชนะ กล่าวว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้หมด

พร้อมมองว่าอนาคตของพรรคจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก และก่อนจะถึงวันที่ 9 ธ.ค. น่าจะมีผู้ที่มีคุณสมบัติครบมาสมัครเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้มีเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง คือ พ.ท.หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล โดยผู้สมัครหัวหน้าพรรคแต่ละคนก็ได้หาเสียงกับสมาชิก

ชัยชนะ ยังกล่าวถึงการประชุม สส.พรรคในเย็นวันนี้ว่า จะมีการพูดคุยเรื่องแนวทางของพรรค และใครที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไป และเห็นตรงกันว่าจะไปทิศทางไหนมากกว่า ซึ่งคนนั้นก็จะได้โอกาสรับชัยชนะ พร้อมย้ำว่ามีผลต่อการเลือกหัวหน้าพรรควันที่ 9 ธ.ค.นี้แน่นอน เนื่องจากสส.คิดเป็นสัดส่วน70% ของการโหวต แต่มั่นใจไม่มีคลื่นใต้น้ำ ดังนั้นขอให้รอฟังตอนเย็น 

"พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรที่รู้ก่อนล่วงหน้าเลือกตั้ง 2 วันอยู่แล้วเพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ ผมไม่ได้หมายถึงว่าพรรคการเมืองอื่นมีเจ้าของ ที่รู้เลยว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค เปิดตัวมา 7 วัน 10 วันหรือเดือนหนึ่ง คนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่เปลี่ยนเลย แต่ประชาธิปัตย์ต้องลุ้นนาทีต่อนาที" ชัยชนะกล่าว 

ส่วนที่มีข่าวว่าจะไปขอให้ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ขึ้นอยู่กับการพูดคุยทั้งหมดในเย็นวันนี้ 

ชัยชนะ ยังบอกถึงกระแสข่าวที่มีชื่อตนเองเป็นเลขาธิการพรรค ว่า เป็นเพียงแค่ชื่อ ข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงอยู่ที่ตน ซึ่งตนยังไม่ได้มีการตัดสินใจอะไร แต่ตนเองก็พูดคุยกับทุกคนอยู่แล้ว รวมทั้งกับ เดชอิศม์ ขาวทองก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด แต่กลับมีว่า เดชอิศม์ อยู่ฝั่งหนึ่งตนอยู่อีกฝั่งนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วตนพูดคุยกับ เดชอิสม์ อยู่ทุกวัน 

ถ้าหากตนได้เป็นจริงตนก็ออกมาบอกอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ายังไม่ได้ตัดสินใจยืนจุดจุดไหน ต้องคุยกับ สส.ปัจจุบันและผู้ใหญ่ในพรรคให้เห็นตรงกันว่า พรรคจะเดินไปอย่างไร ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ต้องสร้างความน่าเชื่อถือคือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภา ต้องทำอย่างจริงจัง และย้ำว่าพรรคอยู่ในช่วงฟื้นฟูให้กลับมาแล้ววันนี้ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีเอกภาพ และความสามัคคี ดังนั้นหัวหน้าพรรคคนต่อไปต้องมีแผนฟื้นฟูพรรค ในการฟื้นฟูพรรคไม่ใช่ใช้เวลา 1-2 ปีแต่ต้องใช้เวลา 3 ปี และต้องเสนอแนวคิดนโยบายที่ดี การแก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจ รวมทั้งการกระจายอำนาจ เพื่อทำให้พรรคกลับมาเป็นแกนนำในการเลือกตั้งรอบหน้าให้ได้