นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยอมรับว่าขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์เข้มมากขึ้น หลังจาก 2 ประเทศมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยการยกระดับการคัดกรองฯ อยู่ระดับเทียบเท่าผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศจีน ซึ่งจะมีการจัดแยกเครื่องบินเพื่อเป็นจุดจอดอากาศยานเมื่อมาถึง โดยจะใช้อาคารเทียบเครื่องบิน FEC เช่นเดียวกับผู้โดยสารเดินทางมาจากประเทศจีน รวมทั้งการเดินทางมาถึงจะมีจุดคัดกรองตรวจเช็คอุณหภูมิ 2 ขั้นตอน คือ บริเวณทางเข้า หรือเกต (Gate) ของอาคารเทียบเครื่องบินและจุดผ่านตรวจคนเข้าเมือง หากพบผู้โดยสารมีแนวโน้มติดเชื้อจะคัดแยกส่งตัวให้แก่โรงพยาบาลบำราศนราดูร
ด้าน เรืออากาศโทสัมพันธ์ ขุทรานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่า มีการยกระดับตรวจเข้มของผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงจากประเทศต้นทางที่มีการระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาท่าอากาศยานดอนเมืองมีการแยกอาคารเทียบเครื่องบินรองรับเที่ยวบินจากประเทศจีนและกัมพูชาให้มาเทียบเครื่องบินที่อาคารหมายเลข 6 มีลักษณะพื้นที่แยกออกไปเป็นสัดส่วนง่ายต่อการคัดกรองผู้โดยสารและหลังจากสถานการณ์การะบาดของโรคเพิ่มขึ้นหลายประเทศ ขณะนี้จะมีการเพิ่มเที่ยวบินที่เดินทางมาจากฮ่องกง สิงคโปร์และญี่ปุ่นมาเทียบเครื่องบินที่อาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 จะรองรับเที่ยวบินได้ประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน ดังนั้น หากมีเที่ยวบินมาใช้อาคารหมายเลข 6 มากขึ้นกว่าวันละ 50 เที่ยวบิน ดอนเมืองอาจจำเป็นต้องปรับแผน โดยการใช้มาตรการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเจ้าหน้าที่และเทอร์โมสแกน เพื่อตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงตรงหน้าเกตของอาคารเทียบเครื่องบินทุกอาคาร
สำหรับมาตรการนี้ยอมรับว่าจะดำเนินการได้ต้องมีความพร้อมได้รับเครื่องเทอร์โมสแกนและเจ้าหน้าที่เพิ่ม ขณะนี้ท่าอากาศยานดอนเมืองยอมรับว่าจะมีการนำมาตรการชะลอผู้โดยสารที่เดินทางมาถึง สำหรับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานก็ชะลอเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร เพื่อทำการคัดกรอง โดยให้ผู้โดยสารจากเที่ยวบินอื่นเดินทางไปก่อนอาจทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกบ้าง แต่เป็นมาตรการที่จำเป็นที่ต้องมาใช้อย่างเร่งด่วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :