นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พบว่าเกษตรกรจำนวนมาก ได้ร้องเรียนกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่ารัฐบาลนี้ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกร มองเกษตรกรเป็นพลเมืองชั้น 2 เพราะกลุ่มอาชีพอื่นๆ ได้รับการเยียวยาคนละ 5,000 บาทต่อเดือน แต่รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรครัวเรือนละ 5,000 บาท ทั้งๆ ที่กลุ่มเกษตรกรเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าที่ควร
กรณีที่รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรครอบครัวละ 15,000 บาท โดยแบ่งให้เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ทั้งๆ ที่เกษตรกร ในภาวะวิกฤติโควิด-19 ลำบาก ยากจนกว่า แต่ละครัวเรือนมีสมาชิกหลายคนไม่ใช่มีคนเดียว และช่วงนี้เป็นช่วงฤดูทำนา ทำสวน ยิ่งลำบากจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล จะไปทำมาหากิน จับกบ จับเขียด ตามทุ่งนา ช่วงเวลาเคอร์ฟิวก็ถูกตำรวจจับ
นพ.สุรวิทย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลควรที่จะให้ความสำคัญกับภาคเกษตรมากกว่านี้ และควรที่จะมองภาคเกษตรเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้ในอนาคตที่ดีที่สุด ดังนั้น การจะมอบเงินเยียวยาภาคเกษตรเพียงครอบครัวละ 15,000 บาทโดยแบ่งให้เดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน จึงมองว่าไม่เป็นธรรมกับเกษตรกร และไม่ก่อให้ประโยชน์ในการต่อยอดให้กับเกษตรกร พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาลเพิ่มเงินเยียวยาเกษตรกรเป็นครัวเรือนละ 35,000 บาท จึงจะเพียงพอต่อการยังชีพและการพัฒนาสินค้าเกษตรต่อไป