ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.นครพนม พท. ชงแก้วิกฤตคนฆ่าตัวตายจากพิษโควิด-19 ให้ออกประกาศสำรวจคนตกงานมอบคูปองอาหาร 3 มื้อทุกวัน - คนไทยทุกคนอายุ 18 ปีขึ้นไปควรได้เงินเยียวยา 5,000 บาท -ทุ่มงบฯช่วยธุรกิจเอสเอ็มอี เยียวยาเกษตรกรครัวเรือนละ 35,000 บาท

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ข่าวคนไทยฆ่าตัวตาย ทั้งตายสำเร็จและไม่สำเร็จ โดยมีสาเหตุมาจากพิษเศรษฐกิจอันสืบเนื่องจากวิกฤตไวรัสโควิต-19 ส่งผลให้ประชาชนตกงานแบบเฉียบพลัน เมื่อตรวจสอบข้อมูลจากข่าวพบตัวเลขคนฆ่าตัวตายด้วยเหตุพิษภัยเศรษฐกิจ ปรากฎว่ามีจำนวนใกล้เคียงกับคนตายด้วยไวรัสโควิด-19 จนเกิดเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ตามมาว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญในการป้องกันปัญหาไม่ให้คนไทยฆ่าตัวตายด้วยพิษเศรษฐกิจด้วย  

นายชวลิต ระบุว่า ตนมีข้อเสนอแนะต่อการแก้ไขปัญหาคนไทยฆ่าตัวตายจากปัญหาเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้น ดังนี้ .ให้อำเภอและเขต ออกประกาศและสำรวจปัญหาคนตกงานเฉียบพลันจากพิษเศรษฐกิจดังกล่าวแล้วดำเนินการช่วยเหลือทันที ไม่ชักช้า โดยไม่มีหลักเกณฑ์ยุ่งยาก ดังนี้ 1.1 คนตกงานและครอบครัวทุกคน จะได้รับคูปองอาหารไว้บริโภค 3 มื้อทุกวัน และมีกระทรวงแรงงาน กับกระทรวงพัฒนาสังคม ฯ มาร่วมสำรวจเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการมีงานทำและที่อยู่อาศัยให้สอบถามไปในคราวเดียวกันว่า เมื่อสถานการณ์ปกติจะกลับบ้านในชนบทหรือไม่ ถ้ากลับให้รัฐบาลจัดส่ง

1.2 คนไทยทุกคนทั้งที่ตกงานหรือไม่ตกงานที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล รายละ 5,000 บาท/เดือน รวม 3 เดือน เป็นเงิน 15,000 บาท โดยสามารถนำบัตรประชาชนไปขึ้นเงินได้ทุกธนาคารทันที แล้วธนาคารรวบรวมตั้งเบิกจากกระทรวงการคลังมาชดใช้

นายชวลิต ระบุว่า คนที่จะฆ่าตัวตาย ไม่ใช่เพียงระดับคนงานที่ตกงานโดยเฉียบพลันเท่านั้น แต่เจ้าของกิจการขนาดกลาง หรือขนาดย่อม ที่เรียกว่า SME มีเป็นจำนวนมากทึ่ได้รับผลกระทบ แม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือ แต่เมื่อเทียบสัดส่วนกับที่รัฐบาลช่วยเหลือธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งจำนวนเงินงบประมาณที่ช่วยเหลือ ทั้งจำนวนธุรกิจที่ช่วยเหลือ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับ SME ซึ่งเป็นธุรกิจของคนชั้นกลางและมีจำนวนมหาศาลที่เข้าไม่ถึงทุนให้มากกว่านี้ โดยควรสนับสนุนงบประมาณที่จะช่วยเหลือธุรกิจขนาดใหญ่เท่าที่จำเป็น แล้วนำงบประมาณส่วนใหญ่มาช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม ไม่ให้ล้มละลาย ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งร่ำรวยระดับประเทศอยู่แล้ว มีความสามารถเพียงพอที่จะประคับประคองธุรกิจของตนเองได้

3. เกษตรกร เป็นอาชีพของคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ ได้รับผลกระทบจากสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ มาเป็นเวลา 5 - 6 ปี เมื่อมาประสบกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 ควรได้รับการเยียวยา ครัวเรือนละ 35,000 บาท ซึ่งประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้เคยนำเสนอไว้แล้ว ซึ่งผมจะติดตามการเยียวยาเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอย่างใกล้ชิดต่อไป

"มาตรการในการผ่อนคลายเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินธุรกิจเพื่อยังชีพได้นั้น อย่างน้อยควรมีมาตรการควบคุมตามข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก (WHO) ไว้ด้วย เพื่อคลายความกังวลของผู้ที่เป็นห่วงมาตรการควบคุมโรค ส่วนการแก้ไขปัญหาคนฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ สังคม เป็นปัญหาเฉพาะหน้า รีบด่วน ทึ่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว ข้อเสนอแนะข้างต้นเป็นมาตรการหนึ่ง ที่ต้องการให้ถึงมือประชาชนที่เดือดร้อนโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะมีประชาชนฆ่าตัวตายมากกว่านี้" นายชวลิต ระบุ