วันนี้ (16 ม.ค.67) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารรื่นฤดี กอ.รมน.(ส่วนกลาง) กรุงเทพมหานคร พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก/ผู้ช่วยผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ที่มอบหมายให้ กอ.รมน. บูรณาการและขับเคลื่อนร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง 6 เรื่อง โดยได้มีการเชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเด็นมาร่วมประชุมหารือ พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการ
เรื่องแรกการบริหารจัดการคนไร้ที่พึ่ง บริเวณพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กอ.รมน. พร้อมด้วยผู้แทนจากกรุงเทพมหานคร และสำนักพัฒนาสังคม ได้ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการได้มีการเปิดบ้านมิตรไมตรีธนบุรีเพื่อรองรับคนไร้ที่พึ่งให้มีที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้มีคนไร้ที่พึ่งเข้ามาอยู่อาศัยแล้วจำนวนหนึ่ง แต่เนื่องจากคนไร้ที่พึ่งบางส่วนต้องการใช้ชีวิตอิสระจึงไม่สมัครใจเข้าร่วม ซึ่ง กอ.รมน. พม. และกทม. จะลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ พร้อมขอความร่วมมือจาก NGO และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้ต่อไป โดย กทม. ได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ประสานงานคนไร้บ้านโครงการบ้านอิ่มใจ ในพื้นที่การประปานครหลวงแม้นศรี โดยจะเริ่มเตรียมการปรับปรุงพื้นที่ให้สามารถรองรับผู้ไร้ที่พึ่งได้ 200 คน และพร้อมเปิดให้บริการกลางปี 67 นี้
ถัดมาเรื่องผู้ป่วยจิตเวชที่เกี่ยวกับยาเสพติด โดยใช้ รพ.ทบ. ในการพักคอยรักษา โดยมี ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. และ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เข้าร่วมประชุม สำหรับผลการจัดการจัดศูนย์รักษ์ใจ สำหรับผู้ที่มีอาการทางจิตจากยาเสพติด ในพื้นที่เร่งด่วน 4 จังหวัด 5 อำเภอ โดย ป.ป.ส. ร่วมกับสาธารณสุขประจำจังหวัด, กรมแพทย์ทหารบก และโรงพยาบาลค่ายในสังกัด ทบ.จำนวน 4 แห่ง
ได้แก่ โรงพยาบาลค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี, โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ.อุบลราชธานี, โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา และโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ปัจจุบันได้ทำการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในการดูแลตามกระบวนการให้เป็นไปตามมาตรฐานแล้ว จำนวน 4 รุ่น 80 นาย และอยู่ระหว่างการปรับปรุงสถานที่ จัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมเปิดให้บริการห้วงเดือน ก.พ.67 นี้
สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบทหารกองประจำการแบบสมัครใจ คณะทำงานได้ดำเนินการตามนโยบายของ รมว.กห. ที่ให้ความสำคัญในการสร้างกระบวนทัศน์ของทหารกองประจำในการเป็น “2 ปี แห่งการได้รับโอกาสพัฒนาและเพิ่มศักยภาพในดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น” ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขับเคลื่อนดำเนินการสร้างแรงจูงใจ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจสมัครเป็นทหารกองประจำการ ในโครงการทหารออนไลน์ ซึ่งจะปิดรับสมัคร 28 ม.ค.67 นี้ ควบคู่กับการพิจารณาหารือ ปรับระเบียบ และเพิ่มเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจมาสมัครเป็นทหารกองประจำการเพิ่มมากขึ้น
อาทิ เปิดโอกาสให้ทหารกองหนุน ประเภทที่ 1 ที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี สมัครเป็นทหารกองประจำการ, กรณีผู้ร้องขอในห้วงตรวจเลือกทหาร สามารถเลือกเหล่าทัพและหน่วยทหารที่จะเข้าประจำการได้ เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ในส่วนของการส่งเสริมทหารกองประจำการต่อยอดสร้างความมั่นคงอาชีพนั้น ล่าสุด ตร. ให้โควตาทหารกองประจำการต่อยอดสู่การเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจจำนวน 500 อัตรา รับการฝึก 6 เดือน เพื่อเข้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจต่อไป กำหนดเริ่ม ก.ย.67 นี้ นอกจากนี้จะขยายกรอบความร่วมมือในการสร้างความมั่งคงทางอาชีพให้กับทหารกองประจำการกับกระทรวงต่างๆ อาทิ อาสาสมัครฯ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สังกัดกระทรวงมหาดไทย, พนักงานราชการ กรมป่าไม้/กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ส่วนเรื่องการบริหารจัดการที่ดินในความดูแลของกองทัพให้ประชาชนใช้ประโยชน์ การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” และการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยมี ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. ร่วมกับ กรมธนารักษ์ ผู้แทนเหล่าทัพ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) และกรมการทหารช่าง ร่วมชี้แจงความคืบหน้า
ปัจจุบัน โครงการ “หนองวัวซอโมเดล” พื้นที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ที่อยู่ในความดูแลของ ทบ. มีประชาชนชำระเงินค่าเช่าตามระเบียบการเช่าที่ราชพัสดุแล้ว รวม 433 ราย แบ่งออกเป็น เพื่อที่อยู่อาศัย 104 แปลง เพื่อการเกษตร 474 แปลง รวม 578 แปลง โดยมีกำหนดเชิญนายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. เป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่า ในห้วงกลางเดือน ก.พ.67 นี้ สำหรับในพื้นที่บ้านพุลาด และบ้านแก่งประลอม ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค ที่อยู่ในความดูแลของ ทท. รวมพื้นที่ จำนวน 2,178 ไร่เศษ มีกำหนดมอบสัญญาเช่าฯ ภายในเดือน ก.พ.67 เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ พื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ที่อยู่ในความดูแลของ ทร. และ พื้นที่ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม อยู่ในความดูแลของ ทอ. มีกำหนดในการจัดกิจกรรมมอบสัญญาเช่าในห้วงถัดมา
ในขณะเดียวกันการช่วยเหลือประชาชนตามนโยบาย “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” กอ.รมน. ได้ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูถัมภ์ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) และกรมการทหารช่าง (กช.) ขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน โดย นทพ. ร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัด ได้เข้าสำรวจพื้นที่เป้าหมายร่วมกับฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน
กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และน้ำสำหรับปัจจัยในการผลิตด้านการเกษตรที่จะเกิดผลกระทบในห้วงภัยแล้ง ปี 2567 ขั้นต้นในพื้นที่เป้าหมาย 8 จังหวัด 71 โครงการ ประกอบด้วย ตราด จันทบุรี อุทัยธานี อุดรธานี น่าน เชียงใหม่ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด โดยส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมและความไม่ซ้ำซ้อนของโครงการ พร้อมเสนอขอความเห็นชอบจาก ผอ.รมน. ในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการขับเคลื่อนนโยบาย “ไม่ท่วม ไม่แล้ง” ด้วยกลไกความมั่นคงต่อไป
สำหรับการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปี2567 นรม./ผอ.รมน. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ และรับมอบภารกิจ กอ.รมน. ได้ดำเนินการหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อบูรณาการการปฏิบัติแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณ สนับสนุนการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการ การบูรณาการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศด้วยกลไกด้านความมั่นคง ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน
ในโอกาสนี้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลได้สำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในด้านต่างๆ รวมถึงเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ทั้งในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพ รายได้ เศรษฐกิจปากท้อง และการสร้างความมั่นคงทางอาชีพ ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาไปข้างหน้าอย่างมีขั้นตอนอันจะก่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้อย่างแท้จริง