วันที่ 4 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 3 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) กำลังเข้าสู่วาระพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ สว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หรือ 'ปิดสวิตช์ สว.' ซึ่ง ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ หลัง วันมูมะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาได้เลื่อนวาระการพิจารณาบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงนายกรัฐมนตรี ออกไปก่อน เพื่อรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องกรณีตีความข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 จะสามารถเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งได้หรือไม่

เวลา 09.30 น. ซึ่งเป็นเวลานัดหมายเปิดประชุมรัฐสภา แต่สมาชิกรัฐสภายังคงบางตา โดยเฉพาะ สว. ที่แสดงตนเพียง 42 คน ขณะที่ สส. แสดงตน 278 คน จากสมาชิกทั้งหมด 747 คน ซึ่งแม้จะรอองค์ประชุมอยู่เป็นเวลานาน ก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุม หรือ 375 คน ที่จะเปิดประชุมรัฐสภาได้

สส.หารือฆ่าเวลารอองค์ประชุม

ระหว่างรอองค์ประชุม ประธานรัฐสภาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกลุกขึ้นหารือปัญหาต่างๆ โดยส่วนใหญ่สมาชิกจากพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการที่เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรบริเวณแยกเกียกกาย ทำให้เดินทางสัญจรได้ยากลำบาก รวมถึงการนำตู้คอนเทนเนอร์มาปิดกั้นทางเข้าอาคารรัฐสภา ซึ่งมองแล้วไม่สอดคล้องกับมาตรการป้องกันผู้ชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้ประธานรัฐสภา แจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ส่งเจ้าหน้าที่มารื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ออกไป 

โดย วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า เข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนทั้งของสมาชิกและประชาชน แต่ผู้ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็มีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ 

ระหว่างการหารือ อดิศร เพียงเกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขอให้เจ้าหน้าที่ติดไฟส่องสว่างบริเวณบัลลังก์ของประธานรัฐสภา ให้สมกับสภาหมื่นล้าน เนื่องจากทุกวันนี้ มองหน้าประธานไม่ชัด ทำให้ วันมูหะมัดนอร์ ตอบกลับอย่างติดตลกว่า “อย่าติดเลยครับ เดี๋ยวจะเห็นความแก่มากขึ้น”

'วิโรจน์' ร้องว้าย! กระตุ้น สว. เข้าประชุม

ขณะที่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้ลุกอภิปรายว่า ถ้ามีปากกา ตนจะเตรียมไว้ให้เซ็นชื่อ และบัตรเอาไว้แสดงตัว ก่อนที่หันไปนับจำนวน สว.ที่เข้าร่วมประชุม มี 49 คน หลังจากนั้นร้องอุทานเสียงดังกลางห้องประชุมว่า "ว้าย 49 ท่าน" ทำให้สมาชิกบางส่วนหัวเราะ และปรบมือ

มีรายงานว่า หลังจากที่ วิโรจน์ ได้อุทาน สว.ที่อยู่นอกห้องประชุมได้ทยอยเดินเข้ามาจบครบองค์ประชุม และที่ประชุมได้นำวาระที่ 1 แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาพิจารณาต่อ

ขณะที่บรรยากาศห้องประชุมพบว่า สส.ที่เข้าประชุมส่วนใหญ่มี สส.พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคที่ไม่มี สส. เข้าร่วมประชุมก่อน 10.00 น. หรือมาน้อย เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติพัฒนา 

ต่อมา อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าประชุม และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย

ค้านญัตติ 'โรม' ไม่จบ 'วันนอร์' ชิงปิดประชุม

เวลา 10.00 น. รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอญัตติให้ที่ประชุมทบทวนมติของรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. วินิจฉัยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ของการประชุมรัฐสภา ว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นญัตติที่ไม่สามารถเสนอซ้ำได้ โดยญัตติดังกล่าวมีผู้รับรองถูกต้อง 

ทำให้ สมชาย แสวงการ สว. ทัดทานว่า ไม่สามารถดำเนินการตามญัตติที่เสนอได้ เนื่องจากกรณีดังกล่าวกำลังอยู่ในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอเสนอญัตติ ไม่เห็นด้วยกับญัตติของ รังสิมันต์

จากนั้นที่ประชุมได้ถกเถียงเรื่องดังกล่าวอย่างกว้างขวาง กระทั่ง วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ในเมื่อการถกเถียงเรื่องนี้หาข้อสรุปไม่ได้ จึงใช้อำนาจตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 22 สั่งเลื่อนการประชุมวันนี้ออกไปก่อนในเวลาประมาณ 11.27 น. พร้อมปิดการประชุมทันที