วันที่ 28 เม.ย. วอยซ์ ทีวี ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและมอบหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 1,000 ชิ้น ให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดน่าน (ปภ. น่าน) เพื่อแจกจ่ายแก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า
นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า หากมีหน้ากากเหลือก็จะเก็บไว้ใช้ในปีต่อไป เนื่องจากปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำทุกปีในช่วงรอยต่อของฤดูหนาวกับฤดูร้อน ส่วนหน้ากากอนามัยชุดนี้รับมอบเพื่อนำไปแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า
ทั้งนี้ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายวรกิตติ ได้ให้อำนาจนายอำเภอ ทั้ง 15 อำเภอ ในจังหวัดน่านในการจัดการเบ็ดเสร็จดูแลและบริหารเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และกระจายสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
นาย ณรงค์ อินโส หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดน่าน (ปภ. น่าน) รับหน้าที่ประสานงานไปยังอำเภอเพื่อแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ต่างๆ ต่อไป
นอกจากความช่วยเหลือในด้านของเครื่องป้องกัน เช่น หน้ากากป้องกันฝุ่นควันแล้ว นายณรงค์ ยังเสริมว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการณ์ของกรมอุทยานฯ หรือกรมป่าไม้ต้องการในการควบคุมไฟป่าคือเครื่องมือที่ทันสมัย เนื่องจากในปัจจุบัน แม้จะมีเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร แต่เครื่องมือที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน
“สิ่งสำคัญที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ เราต้องการสื่อที่ทันสมัยในการประหยัดแรงงานในการเข้าไปปฏิบัติงาน ไม่ใช่เครื่องมือแบบเดิมๆ เช่น ถังฉีดน้ำเล็กๆ กว่าจะขึ้นไปฉีดน้ำ ไฟก็ลุกท่วม กลับไปกลับมาไม่เพียงพอ การทำแนวกันไฟ เราก็ยังใช้แบบเดิมๆ กันอยู่ คือใช้ไม้กวาดบ้าง อุปกรณ์ที่ตบไฟ” นายณรงค์ กล่าว และชี้ว่าสิ่งที่จะช่วยในการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับพื้นที่มากที่สุดคือเครื่องเป่าลม สำหรับเป่าให้ใบไม้ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของไฟป่าแยกออกจากกัน เกิดพื้นที่ห่างพอให้สะเก็ดไฟไม่ตกไปหากันได้ จะสามารถควบคุมการเกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่รอบข้างได้ดีขึ้น
“ถ้าเรามีเครื่องเป่าลมจะประหยัดกำลังคนไปได้มาก หนึ่งเครื่องอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง แต่หนึ่งคนสามารถเป่าลมแยกใบไม้ออกได้มาก ผมว่าสิบคนยังทำงานเท่าหนึ่งคนที่ใช้เครื่องนี้ไม่ได้เลย”
โดยสาเหตุที่ต้องใช้การแยกใบไม้ออกจากกันเป็นหลัก เพราะไม่สามารถเก็บใบไม้ได้ ด้วยข้อจำกัดของสภาพพื้นที่ที่เป็นภูเขา และแม้สถานการณ์ในปีนี้จะดีขึ้นแล้ว แต่นายวรกิตติ กล่าวว่า ปัญหาไฟป่าและหมอกควันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นประจำทุกปีในช่วงรอยต่อของฤดูหนาวกับฤดูร้อน
ในช่วงเวลาดังกล่าว ความกดอากาศสูงทำให้หมอกควันไม่อาจลอยตัวขึ้นไปได้ จึงเกิดการสะสมของฝุ่นควันจากการเผาป่า โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนืออย่างน่านหรือเชียงใหม่ที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขา เกิดอุปสรรคในการหมุนเวียนของอากาศ จึงขอความร่วมมือประชาชนห้ามเผาพื้นที่การเกษตรในช่วง 15 ก.พ. - 15 เม.ย. 2562 เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของฝุ่นควันในช่วงที่อากาศไม่สามารถระบายขึ้นสู่ที่สูงได้
อย่างไรก็ตาม หากยังเกิดการเผาก็อาจเป็นปัญหาต่อภาวะโลกร้อนอยู่ อีกทั้งภาคเกษตรกรและนักวิชาการต้องพูดคุยกัน และหาทางตัดวงจรการเผาป่า โดยปัญหาหนึ่งคือความไม่มั่นคงด้านที่ดินทำกิน ซึ่งผู้ว่าฯ น่าน เห็นด้วยกับนายณรงค์ว่าเครื่องเป่าลมจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการควบคุมไฟ
“ปัญหาคือเรื่องที่ดินทำกิน เขาไม่มีความมั่นคง การที่เขาจะลงทุนปลูกพืชไม้ยืนต้นที่เก็บเกี่ยวได้หลายๆ ปี เช่น กาแฟ มะม่วง ฝรั่ง ไม่ต้องเผา เขาไม่กล้าลงทุน เพราะเขาไม่มีที่ดิน ก็ต้องบุกรุกทำลายป่า ก็ใช้พืชไร่ระยะสั้น เช่น ข้าวโพด 3-4 เดือนก็จะได้เงิน เป็นปัญหาเชิงความมั่นคงของที่ดิน ซึ่งรัฐบาลก็ได้แก้ปัญหา” นายวรกิตติกล่าว พร้อมย้ำว่าปัญหาการเผาป่าและฝุ่นควันเกิดขึ้นทุกปี แต่คนเพิ่งให้ความสนใจ เพราะมีโซเชียลมีเดียให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยดำเนินการแก้ไขต้นเหตุของปัญหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง