วันที่ 15 ก.พ. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 18 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 หลังจบวาระพิจารณา วาระรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่องการศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือ 'โครงการแลนด์บริดจ์'

ต่อมาเวลา 17.20 น. ที่ประชุมกำลังเข้าสู่วาระการพิจารณาเรื่องใหม่ โดยมี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ปรากฏว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลุกขึ้นตำหนิการกระทำของ พิเชษฐ์ ในช่วงเช้าวันนี้ ระบุว่า ทำหน้าที่เป็นกลางในการอนุญาตให้ รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำรูป ชาดา ที่ถ่ายคู่กับกลุ่ม ศปปส. มาประกอบการอภิปรายในญัตติด่วนเรื่องมาตรการรักษความปลอดภัยขบวนเสด็จ 

โดย ชาดา กล่าวว่า ไม่เคยต่อว่า พิเชษฐ์ ลำเอียงในการทำหน้าที่ สิ่งที่ตนพูดไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ถือว่าจบแล้ว แต่ พิเชษฐ์ ไม่จบ มาพูดต่อในที่ประชุมตอนเช้าวันที่ 15 ก.พ.การที่ พิเชษฐ์ อ้างว่า ระเบียบข้อบังคับการประชุมสภาฯ ให้นำภาพของตนมาอภิปรายได้นั้น ได้พิจารณาหลักเกณฑ์เรื่องกฎหมาย PDPA หรือไม่ หรือจะลองให้ฟ้องดู คำพูด พิเชษฐ์ แสดงว่า ไม่ต้องการจบ 

อย่างไรก็ตาม พิเชษฐ์ เพียงแต่กล่าวขอบคุณ แล้วดำเนินการประชุมต่อ ทำให้ ชาดา สวนมาทันทีว่า “ประธานฯ อยากคุยกับผมข้างนอกใช่ไหมครับ” 

จากนั้น พิเชษฐ์ จึงมองหน้า ชาดา ก่อนตอบกลับว่า “เดี๋ยวผมทำหน้าที่ของผมก่อน ผมไม่ใช่นักเลง ไม่ใช่เจ้าพ่อ” จนมีเสียงฮือฮาดังขึ้นจาก สส.ในห้องประชุม 

ก่อนที่ ชาดา ตอบโต้กลับว่า ประธานฯ พูดเองนะ แล้วใครนักเลง ขณะที่ พิเชษฐ์ ตอบกลับว่า "เดี๋ยวผมทำหน้าที่เสร็จแล้วเจอกันข้างนอก” ซึ่ง ชาดาก็ตอบกลับว่า ตอนไหนก็ได้สำหรับตน แต่ประธานพูดเองว่าเจอกันข้างนอก พร้อมขอให้ พิเชษฐ์ถอนคำพูด 'นักเลง' ซึ่ง พิเชษฐ์ ยอมถอนคำพูด แต่ยังกล่าวย้ำว่า “แล้วไปเจอกันข้างนอก” ก่อนจะตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมต่อไป 

ระหว่างนั้น สส.รวมไทยสร้างชาติ เสนอให้ปิดประชุม เพราะบรรยากาศห้องประชุมไม่ดี แต่สส.พรรคก้าวไกล ไม่ยอม พร้อมขอให้ประชุมต่อเนื่องจากมีญัตติที่สำคัญอีกมาก ทำให้ พิเชษฐ์ ดำเนินการประชุมต่อไป