ไม่พบผลการค้นหา
'พล.ต.ท.สุรเชษฐ์' บินสุราษฎร์ธานี บ่ายวันนี้ (11 พ.ค.) คุยพ่อแม่เหยื่อค้ามนุษย์ มั่นใจไม่มีการเมืองแทรกแซง

วันที่ 11 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในคดีละเมิดสิทธิเด็กต่ำกว่า 18 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุสรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข มอบหมายให้ตนลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อดูแลสำนวนความคืบหน้าของคดีและพบกับพ่อแม่ของเด็ก 

เมื่อถามว่า หวั่นใจหรือไม่กรณีที่มีนักการเมืองในพื้นที่แทรกแซง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยอมรับว่า เรื่องนี้มีปัญหามานานแล้ว ตนได้ให้พนักงานสอบสวนทำเรื่องขออนุมัติต่อศาลเพิกถอนการประกันไปแล้ว ขณะนี้ผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ศาลก็ได้เพิกถอนการประกันแล้ว จนต้องกลับเข้าไปอยู่ในเรือนจำ คดีนี้ทำง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรซับซ้อน ดังนั้นพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการงานร่วมกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดังนั้นกระทำเหมือนเช่นทุกองค์กรที่ถ้ามีผู้กระทำผิดก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏโดยเฉพาะ ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ ส่วนไหนที่กระทำผิดก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในท้องถิ่นต้องแยกให้ออกส่วนไหนถูก ส่วนไหนผิด ไม่เช่นนั้นเด็กจะย่ำแย่ ดังนั้นที่สำคัญคือจะต้องกันเด็กทั้งหมด 8 คน รวมทั้งหัวหน้าบ้านพักเด็ก เข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยาน โดยประสานกระทรวงยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ตนจะพบกับพ่อแม่เด็กเพื่อให้เกิดความมั่นใจและอุ่นใจ ว่าเขาจะน้องได้รับเงินเยียวยา และได้รับการดูแล 

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ลำบากใจกรณีอิทธิพลในพื้นที่ใช่หรือไม่ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่หนักใจ เพราะสิ่งที่เราทำมีความชัดเจน ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ทำอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้เรื่องการตีเด็กในสถานที่ราชการจะต้องไม่เกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการเมืองในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องหรืออาจจะเป็นเครือญาติหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งถือเป็นการกระทำผิด ปกติ ก็ต้องถูกดำเนินคดี