พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ได้นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงเมตตากับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้ทุกคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ซึ่งรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี พร้อมที่จะนำกระแสพระราชดำรัสมาเป็นแนวปฏิบัติ ในการทำงานอย่างเคร่งครัด อย่างเต็มขีดความสามารถ
นายกรัฐมนตรี เผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงกังวลเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องบึงเก็บน้ำ ที่ต้องบริหารจัดการ ปรับปรุงพัฒนา เช่น บึงสีไฟ จ.พิจิตร และ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ที่มีปัญหาเรื่องพื้นที่การทิ้งดิน หลายหมื่นตันหลังทำการขุดลอก ส่งผลให้การดำเนินโครงการล่าช้า พร้อมทั้งให้คณะรัฐมนตรีไปพิจารณา ว่าจะสามารถตัดโครงการออกมาเป็นช่วงได้หรือไม่ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการทิ้งดิน หรือปรับภูมิทัศน์ใหม่ขึ้นมา เพื่อให้เป็นภูเขาขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บน้ำ
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในหลวงทรงห่วงใยเรื่องน้ำเสียตามคลองต่างๆ รวมถึงการให้บริการประชาชนที่ต้องสัญจรทางน้ำ และเรื่องขยะที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ริมคลอง โดย ครม.ได้รับสนองพระราโชบาย เพื่อดำเนินการตามลำดับ ที่ผ่านมาได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่แฟลตดินแดง คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่นเดียวกับคลองแสนแสบ ที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องการเดินทางให้ปลอดภัย และปัญหาน้ำเสียในคลองแสนแสบ ที่มีคลองย่อยในคลองแสนแสบ กว่า 101 คลอง
ซึ่งน้ำเสียก็เริ่มมาตั้งแต่ต้นทาง อีกทั้งยังมีเรื่องระบบระบายน้ำเสียที่เป็นระบบเก่า หากจะปรับปรุงใหม่ ต้องใช้เวลา และใช้งบประมาณ จำนวนมากดังนั้นต้องไปแก้ที่ต้นทาง โดยขอให้งดเรื่องการทิ้งขยะ ทิ้งของเสีย ลงไปในคลอง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ตัวเราเองก่อน เพื่อแบ่งเบาภาระ และตามมาด้วยการจัดทำผังเมืองใหม่ การปรับที่อยู่อาศัย ซึ่งทุกอย่างมีปัญหามาโดยตลอด หากไม่ปรับแก้โดยเริ่มจากแผนย่อยไปก่อน ก็จะไปไม่ได้ และไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม หลายคนใจร้อน เรื่องต่างๆ เหล่านี้ต้องใช้เวลาในการแก้ไข แม้ว่าตนจะเร่งรัดไปแล้วก็ตาม แต่ยังติดขัดในเรื่องของกฎหมาย จึงต้องไปปลดล็อคกฎหมายต่างๆ เหล่านี้ในสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ที่จะไปก้าวล่วงกันไม่ได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้แบ่งงานและมอบนโยบายของรัฐบาลในช่วงปีที่ 2 และนโยบายทั่วไปของนายกรัฐมนตรีให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ได้รับทราบ ว่าจะทำงานกันอย่างไร เพื่อให้สอดประสานกันของยุทธศาสตร์ชาติระยะที่ 1 (ปี2561-2565) ที่เป็นแผนแม่บท การทำงานของแต่ละกระทรวง แต่ต้องมีการปรับเปลื่ยนรายละเอียดการจัดทำโครงการงบประมาณ ให้เหมาะสมกับสถานกาณ์โควิด-19
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะทำงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อช่วยพิจารณาโครงการต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยทำงานร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย ในการดูแลงานแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว โดยต้องรายงานความคืบหน้าให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าแผนงานโครงการใดมีความล่าช้าหรือมีเกียร์ว่างหรือไม่
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้คณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เรื่องสำคัญคือการแก้ปัญหาเรื่องรายได้ของประชาชนที่ลดลง ปัญหาการตกงาน การช่วยเหลือ SME การส่งออกและการท่องเที่ยว ที่ต้องเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวของคนในประเทศ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับจีน ที่เน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ที่ผ่านมาไทยพึงพาการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ปีละ 20 ล้านคน จึงต้องค่อยๆ ปรับ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเชื่อมั่นด้านสุขภาพและมาตรการต่างๆ จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นโยบายต่างๆ ที่ได้พูดคุยการประชุม ครม.วันนี้ ตนจะบันทึกเทป เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบในเย็นวันนี้ (13 ส.ค.)หรือ เช้าวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการถ่ายภาพคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ทีมงานหาเพลงไปประกอบภาพถ่าย โดยใช้เพลง "คนดีไม่มีวันตาย" ซึ่งนายกรัฐมนตรี ระบุได้ถึงเนื้อเพลงท่อนหนึ่ง แม้ไม่มีใครรู้แต่เรารู้ ว่าเรารู้ตัวเราเอง ว่าทำอะไรดีหรือไม่ดี เรารู้ทั้งหมด แต่จะทำอย่างไรให้ทำงานได้ ให้มีประสิทธิผลประสิทธิภาพ นี่คือความยากง่าย ในการบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีกฏหมายอย่างหลายฉบับ ซึ่งจะคิดเพียงชั้นเดียวไม่ได้ ต้องคิดหลายชั้น และการทำโครงการต่างๆ มีหลายกฎหมาย มีความต่อเนื่อง จากรัฐบาลก่อน เพราะฉะนั้นจะแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด