ไม่พบผลการค้นหา
เลขา ครป. เชื่อมั่น ส.ว.โหวตผ่านรับรองนายกฯ ชี้ 'ประยุทธ์' ควรประกาศวางมือทางการเมือง

วันที่ 21 พ.ค. 2566 เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ผมเชื่อมันว่ารัฐบาลใหม่จะผ่านการโหวตเห็นชอบจาก ส.ว. ไปได้ด้วยดี หลังจากที่ผ่านมาได้รับสัญญาณที่ดีจากผู้อาวุโสหลายกลุ่มในประเทศ รวมถึงเสียงจากนายทหาร-ตำรวจชั้นผู้น้อยทั่วประเทศที่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลง และหมดยุคผู้นำที่หลงอำนาจในอดีตที่จะได้รู้ตัวเสียที

เชื่อว่า ส.ว.ส่วนใหญ่จะโหวตสนับสนุนนายกฯ คนใหม่ เพื่อให้ประชาธิปไตยได้ไปต่อ ไม่ให้ติดกับดักบทเฉพาะกาลของ คสช.ที่ออกแบบไว้ ซึ่งการเลือกนายกฯ จากพรรคการเมืองที่ได้เสียงจากประชาชนเป็นอันดับหนึ่งและประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ถึง 313 เสียง จาก 500 เสียงของสภาผู้แทนฯ เพื่อให้กลไกรัฐสภาและเส้นทางประชาธิปไตยเดินไปตามปกติ

ปัญหาของรัฐธรรมนูญ 60 ผลิตกับดักการสืบทอดอำนาจทหารไว้ที่ ส.ว. แต่อยากให้ ส.ว.พิจารณาว่า ความเชื่อมั่นหนึ่งแม้พรรคก้าวไกลอาจจะใหม่ทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน แต่กี่รัฐบาลเก่าที่บริหารประเทศล้มเหลว และหากจะเปรียบเทียบรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมายาวนาน เชื่อว่าพรรคก้าวไกล น่าจะเป็นพรรคการเมืองที่น่าจะมีการทุจริตคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะภาพลักษณ์และการทำงานของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมาเน้นอุดมการณ์วัฒนธรรมการเมืองใหม่ ถือความซื่อตรงซื่อสัตย์สุจริตยุติธรรมและความรับผิดชอบทางการเมืองต่อประชาชนเป็นสำคัญ นอกจากนั้น พรรคการเมืองต่างๆ ควรร่วมมือกันเปลี่ยนผ่านเรื่องนี้ชั่วคราวด้วย ด้วยการยืนยันเจตนารมณ์ของสภาผู้แทนราษฎรร่วมกัน

มีหลายคนกังวลคดี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งตอนนี้ยังไม่เป็นปัญหาก็ต้องเลือกตามกลไกไปก่อน อย่าไปคิดแทน กกต. หากโดนคดี ค่อยดูนายกฯ จากพรรคร่วมต่อไป ซึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคก้าวไกลเสนอแคนดิเดตนายกฯ แค่คนเดียว 

สุดท้าย หลังจากผลเลือกตั้งออกมาแล้ว ผมเห็นว่าเพื่อความสง่างาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรประกาศวางมือทางการเมือง ปลดล็อค ส.ว. เพื่อให้การเมืองไทยได้ไปต่อ 

ผมเชื่อว่า ส.ว.จะยกมือผ่านเรื่องนี้ไป เนื่องจากเป็นเจตนารมณ์ที่เคยพูดไว้กับประชาชน และหลักการทั่วไปอยู่แล้ว และคิดว่าไม่มีเสียงข้างน้อยเสนอนายกฯ แข่งเหมือนปี 62 ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ถอนตัว ที่ผ่านมารัฐบาลเก่ายังมีปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมากเป็นประวัติศาสตร์ รอดูการบริหารประเทศของคนรุ่นใหม่บ้าง