ไม่พบผลการค้นหา
“ผมมีเรื่องที่ควรบอกคุณ ผมกำลังจะแต่งงานกับป็อบ 11 พ.ย.นี้นะ”

มันเป็นคำพูดเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะมีอายุครบ 24 ปี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาบอกเรื่องสำคัญนี้ด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกับที่หลายคนเคยเห็นมันจาก ‘ไผ่ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา’ พี่ชายที่เปลี่ยนมุมมองของเด็กหนุ่มในชมรมมวย ให้มารู้จักกับโลกของการเคลื่อนไหวทางการเมือง

“อย่าลืมเขียนจดหมายฝากทนายไปบอกพี่คุณก็แล้วกัน ไผ่เขายินดีด้วยอยู่แล้วเรื่องแบบนี้” เราบอกกลับไป “มันเป็นเรื่องน่ายินดีเสมอแหละไดโน่”


ขังก่อนแต่งงาน อ้างเงื่อนไขประกันตัวที่กำหนดขึ้นภายหลังมาเป็นเหตุไม่ให้ประกัน

ไม่ถึงสัปดาห์หลังจากได้รับข่าวการแต่งงานจาก ‘ไดโน่’ นวพล ต้นงาม เย็นวันศุกร์ที่ 1 ต.ค.2564 ปรากฏข่าวว่า เขาและเพื่อนอีก 2 คนในกลุ่มทะลุฟ้า คือ ‘อาปีก’ วชิรวิชญ์  ลิมป์รนวงศ์ อายุ 24 ปี และ’ ตา’ ปวริศ แย้มยิ่ง อายุ 24 ปี ถูกฝากขังไม่ได้รับการประกันตัว เป็นหมายจับในคดีสาดสีที่ สน.ทุ่งสองห้อง เหตุเกิดเมื่อ 3 ส.ค.2564 โดยอ้างเงื่อนไขการประกันตัวจากคดีม็อบวันที่ 13 ต.ค.ปีที่แล้ว (2563) ตอนที่พนักงานสอบสวนนำตัวพวกเขาส่งฟ้องต่ออัยการเมื่อ 21 ก.ย.2564 ครั้งนั้นศาลอนุญาตให้ประกันตัวพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามมิให้ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองอีก

ตามปฏิทินเดือน ส.ค.อยู่ก่อนหน้าเดือน ก.ย. แต่เงื่อนไขที่กำหนดขึ้นปลายเดือน ก.ย. กลับมีผลย้อนกลับมาบังคับใช้กับเหตุที่เกิดขึ้นในเดือน ส.ค.ได้ นี่คงเป็นเรื่องที่นักเรียนนิติศาสตร์อย่างไดโน่และตา รวมทั้งคนเรียนฟิลม์อย่างอาปีก กำลังตั้งคำถามกับมันระหว่างใช้ชีวิตอยู่ในแดน 2 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 

ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยว่า ในกรณีของ 3 คนนี้ ได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวไปทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ถูกปฏิเสธทุกครั้ง ในเวลานี้พวกเขาอยู่ในช่วงของการฝากขังผัดที่ 2 (ผัดละ 12 วัน) ซึ่งจะครบกำหนดฝากขังในวันที่ 24 ต.ค.นี้ หากพนักงานสอบสวนยังยื่นคำร้องขอฝากขังอีก ทางทนายความจะยื่นให้ศาลพิจารณาเปิดการไต่สวนถึงความจำเป็นที่จะต้องฝากขังพวกเขา

ทีมงานทะลุฟ้า
  • ไดโน่ , ไผ่ , อาปีก , บังคาริม และตา ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่าย ตชด. ภาค 1
ฉลองวันเกิดในคุกมา 2 ปี ขอบคุณเพื่อนทะลุฟ้าจุดพลุวันเกิดหน้าเรือนจำ

อย่างที่ทราบในตอนต้น 13 ต.ค. คือวันครบรอบวันเกิดของไดโน่ แต่ 2 ปีที่ผ่านมาเขาและเพื่อนไม่ได้ฉลองวันเกิดเหมือนกับคนปกติเลยสักครั้ง ปี 2563 พวกเขาถูกจับกุมและถูกทำร้ายร่างกายระหว่างเตรียมตัวชุมนุมปักหลักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อรอต้อนรับม็อบใหญ่ของคณะราษฎร 2563 ที่จะเคลื่อนพลไปทำเนียบรัฐบาลในวันถัดไป

วันนั้นเป็นครั้งแรกที่มีการสลายการชุมนุม นับตั้งแต่เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ไต่เพดานมาตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. ก่อนเพดานจะถูกทลายลงในวันที่ 3 ส.ค.2563 โดยอานนท์ นำภา ในม็อบแฮรี่ พอตเตอร์  

เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าพวกเขาไม่สามารถจัดชุมนุมในวันที่ 13 ต.ค.ได้ พร้อมถามกลับว่า “พวกมึงไม่รู้เหรอว่าวันนี้เป็นวันอะไร” ไดโน่ที่ถูกจัดให้อยู่ในทีมเจรจาตอบกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปว่า “วันนี้คือวันเกิดผม” จากนั้นเขาถูกลากเข้าไปกระทืบหลังแนว คฝ. เพื่อนที่วิ่งตามเข้าไปช่วยอีกหลายคนก็ถูกควบคุมตัวไปด้วย ก่อนตำรวจจะปิดเกมสำหรับวันนั้นโดยการเข้าควบคุมตัวแกนนำ ไผ่ จตุภัทร์ ลงจากเวที ในจุดที่อยู่สูงที่สุดบนเวทีไผ่เล่าว่า เขามองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าน้องและเพื่อนแต่คนถูกกระทำอย่างไร แต่สิ่งที่เขาสื่อสารผ่านไมโครโฟนก่อนจะถูกดึงลงมา คือ การตอกย้ำให้น้องและเพื่อนเชื่อมั่นในหลักการสันติวิธี 

“ตอนที่ผมบอกเขาไป ผมไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีน คือผมก็เพิ่งเข้ามากรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าวันนี้มันถูกให้ความสำคัญขนาดนี้ แล้วก็ไม่คิดว่าเขาจะทำกันขนาดนี้ ผมรู้สึกว่ามันเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ” ไดโน่เคยเล่าให้ฟังหลังจากเรื่องราวในวันนั้นผ่านมาใกล้ครบปี 

การเข้าคุกครั้งแรกของไดโน่และเพื่อนอีกหลายคน ไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเท่าไรนัก เพราะตอนนั้นพวกเขามี ไผ่ ผู้มีประสบการณ์ในเรือนจำมาไม่ต่ำกว่า 2 ปีเข้าไปด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่ได้มาจากการแชร์บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จากเว็บไซต์ BBC Thai ไผ่กลายเป็นพี่ใหญ่คอยดูแลน้องชายทุกคนที่ถูกรวบมากองรวมกันในเรือนจำ ลืมถามมาว่าคืนนั้นพวกเขามีอารมณ์ฉลองวันเกิดในคุกกันหรือไม่ 

ตา ทะลุฟ้า
  • ตา ทะลุฟ้า (ปวริศ แย้มยิ่ง)

สำหรับปีนี้ ทนายความที่ได้เข้าพูดคุยกับลูกความเล่าว่า เวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่าในแดน 2 ช่วงที่อาปีก และตากำลังจะเอาเค้กวันเกิดที่แอบทำมาเซอร์ไพร์สไดโน่ อยู่ๆ ก็เกิดเสียงดังขึ้นจากภายนอก ผู้ต้องขังทั้งแดนต่างตกใจและคิดว่าเกิดเหตุระเบิด ก่อนจะได้รับคำอธิบายว่า ข้างนอกกำลังมีเพื่อนจุดพลุวันเกิดให้กับไดโน่ 

ขณะที่พลุไฟส่งเสียงอย่างต่อเนื่อง ไม่นานนักคืนวันที่ 13 ต.ค.ของปีนี้ในห้องขังที่เงียบเชียบแออัดก็ดังกระฮึ่มขึ้นด้วยเสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ มารู้ภายหลังว่าทีมทะลุฟ้าที่เคยถูกสั่งขังเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ปีก่อน ได้กำหนดจุดที่จะจุดพลุไว้แล้ว พวกเขาคำนวณมาก่อนแล้วว่า ท้องฟ้าในเวลากลางคืนที่เคยมองเห็นจากในเรือนจำคือจุดที่มีป้าย PEA การกำหนดจุดจุดพลุวันนั้นจึงทำให้เพื่อนของเขาที่อยู่ในแดน 2 สามารถมองเห็นพลุที่พุ่งขึ้นฟ้านับครั้งไม่ถ้วนนั้นด้วย

“ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่ยังไม่ลืมกัน” ไดโน่ ฝากผ่านทนายความ


แหวนแต่งงานที่ต้องเลือกเพียงคนเดียว กับความหวังของเจ้าสาวที่ต้องจุดประกายตัวเองทุกวัน

“ป็อบเลือกแหวนแต่งงานที่ป็อบชอบได้เลยนะ มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและอยู่กับเราตลอดไป”

ข้อความนี้ถูกส่งมาถึงป็อบ นักกายภาพบัดบำในคลีนิคแห่งหนึ่งในวันที่ 8 ต.ค. เธอเพิ่งคบหาสานความสัมพันธ์กับเด็กรุ่นน้องที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อปลายปีก่อน เธอเรียกไดโน่ว่า ‘เด็กข้างบ้าน’ มานาน แม้จะรู้จักกันมามากกว่า 10 ปี แต่ก่อนหน้านี้เธอก็ยังเห็นว่าไดโน่เป็นเด็กที่วันๆ ไม่ทำอะไร เล่นแต่เกม จนได้มาเจอกันอีกครั้งเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2563 ช่วงที่มีการจัดการชุมนุมค้างคืนหน้าเรือนจำ เธอไปในฐานะผู้เข้าร่วม ส่วนไดโน่ไปในฐานะผู้ร่วมจัดม็อบ จากเด็กข้างบ้าน เธอเริ่มมองเห็นความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเด็กคนนั้น

“โน่บอกว่ารอมา 10 ปีกว่าจะได้มาเป็นแฟนกัน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเริ่มได้ยังไง แต่หลังจากม็อบวันนั้นก็ไม่ค่อยได้เจอกันนะ ว่างไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ บางทีมันอาจจะเริ่มจากที่ป็อบชวนโน่ไปกินข้าวนี่แหละ”

ป็อบ เล่าถึงสิ่งที่ได้รับการสื่อสารผ่านทนายความให้ฟังว่า วันแรกที่ไดโน่ อาปีก และตา เข้าไปในเรือนจำ พวกเขาได้เจอกับ ไมค์ ภานุพงศ์ จาดนอก ที่ถูกสั่งขังในคดี 112 ไมค์รีบเอาหนังสือที่มีอยู่มาให้ทั้ง 3 คนเลือกไปคนละเล่ม ไดโน่เลือกวรรณเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ความรัก’ เขาบอกกับทนายความว่า พอได้อ่านเล่มนี้มันทำให้เขาคิดถึงป็อบ และหากเขามีลูกสาวกับป็อบ เขาจะตั้งชื่อลูกสาวว่า ‘ชามา’ ตามนามปากกาของผู้เขียนหนังสือเล่มนั้น 

ไม่กี่วันต่อมา ป็อบค้นหาหนังสือเล่มนั้นจากเว็บไซด์ขายหนังสือมือสอง เธออยากอ่านมันอย่างน้อยก็เพื่อให้รู้ว่าโลกในจินตการของไดโน่เป็นอย่างไร เธอว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้ไดโน่ออกมาอ่านให้ฟังมากกว่า 

“มันเกี่ยวกับความรัก แต่ตอนอ่านทำไมมันเศร้าก็ไม่รู้ ป็อบยังอ่านไม่จบ ไดโน่ก็ยังไม่ได้อ่านต่อ เขาบอกว่ามันเศร้าเกินไป อ่านแล้วคิดถึง”

กับเรื่องงานแต่ง ทุกอย่างถูกเตรียมการไว้หมดแล้ว เหลือเพียงอิสรภาพที่ควรจะได้รับของเจ้าบ่าว และเพื่อนๆ เท่านั้นที่เป็นตัวแปรสำคัญ แหวนแต่งงานคงพอเลือกคนเดียวได้ แต่คงไม่มีงานแต่งที่ไหนที่แต่งเพียงคนเดียว ป็อบเล่าว่า ยิ่งเวลาเดินไปมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งเครียด เพราะตอนแรกคิดว่าอีกไม่นานได่โน่และคนอื่นๆ คงจะได้ออก แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะนานกว่าที่คิด 

เธอเชื่อว่าถ้าวันที่ 24 ต.ค.นี้พนักงานสอบสวนจะไม่ยื่นขอฝากขังอีกรอบ ทุกอย่างที่เตรียมไว้ก็ยังเป็นไปตามเดิม แต่ถ้าไม่ เธอก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร งานแต่งคงถูกเลื่อนออกไป แต่เจ้าบ่าวจะยังเป็นคนเดิม

อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง