วันที่ 28 ส.ค. อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอการวินิจฉัยประเด็นวาระ 8 ปีนายกฯ ทำให้ตอนนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นรักษาราชการแทนนั้น ว่า วันนี้แม้ศาลสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว แต่กระแสสังคมได้เรียกร้องกดดันและแสดงพลังไปในทิศทางเดียวกันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นี่ไม่ใช่แค่พักยกแต่ประชาชนอยากให้พักยาวมากกว่า พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้ขนาดศาลสั่งให้หยุดคนไทยยังดีใจขนาดนี้ แต่ถ้าสั่งให้พ้นคนไทยจะออกมาเฉลิมฉลองมากมายแค่ไหน
ส่วนกรณีภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ ดอดเข้าไปทำงานลับลวงพรางในกระทรวงกลาโหม ซึ่งถูกตั้งคำถามว่าตอนนี้ได้สูญเสียความสง่างามชอบธรรมในการแอบเข้าไปในกระทรวงฯ ฉะนั้นความรับผิดชอบทางการเมืองอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย ไม่มีประโยชน์ถ้าจะบ่ายเบี่ยงว่าให้หยุดเฉพาะหน้าที่นายกฯ แต่ไม่ให้หยุดหน้าที่ รมว.กลาโหม ทั้งนี้ขอแนะนำว่าควรจะใช้เวลานี้อย่าลนและใช้เวลาศึกษาหลักธรรมคําสอนอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มารค ให้ถ่องแท้เพื่อจะได้รู้ว่า 8 ปีที่ผ่านมาได้ทำทุกอย่างที่อยากทำครบหมดแล้ว และช่วงเวลาสุญญากาศนี้ คนไทยคงไม่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ แอบเข้าประชุม ครม. จากคนที่เคยนั่งหัวโต๊ะต้องไปเป็นลูกน้อง พล.อ.ประวิตร
อนุสรณ์ ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรเป็นเรื่องของศาล แต่วันนี้ประชาชนวินิจฉัยแล้ว ไม่ได้แค่อยากให้พักยก แต่อยากให้พักยาว ส่วนรัฐบาลรักษาการที่มี พล.อ.ประวิตร รักษาการ แต่สภาพที่เห็นไปต่อลำบากยากมาก เพราะทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ถึงเวลาที่ต้องพอ พร้อมย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ถึงเวลาที่ต้องหยุดอย่าพยายามดิ้นรนหาช่องเพื่อลับลวงพรางไม่เช่นนั้นจะสูญเสียความสง่างาม และยืนยันว่าประเทศไทยขาด พล.อ.ประยุทธ์ ได้และอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้
ทั้งนี้ตนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศลาออกพอได้แล้ว ซึ่งในอดีต พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยังพอแล้วทำไม พล.อ.ประยุทธ์ ถึงจะพอไม่ได้ และหลังจากนั้นก็ครรเปิดให้สภาเลือกนายกฯ จากบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค และคืนอำนาจให้ประชาชน
"ถ้าเปรียบเป็นมวยสภาพ พล.อ.ประยุทธ์ เละเทะ มาก เลือดออกมาทุกทิศทุกทาง ถ้าเป็นมืออาชีพกรรมการต้องสั่งให้หยุดชกแล้วเลิกไปเลย เพราะสู้ไม่ได้ โอกาสจะกลับมาริบหรี่ 8ปีนานมากแล้ว พอได้แล้ว อย่ารัด อย่าดื้อ อย่าดิ้น เพราะประเทศชาติและประชาชนอาจเสียหายหนักกว่านี้"
ขณะที่ ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณเสียงส่วนใหญ่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นข้อเท็จจริง แต่ในระหว่างที่รอกระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ชะตา ชีวิตคนไทยทั้งประเทศ พรรค
เพื่อไทยขอเรียนว่าบัดนี้ผู้นำรัฐบาลเปลี่ยนมือจาก “น้องเล็ก” มาเป็น “พี่ใหญ่” ที่ดูเหมือนจะไม่เคยรู้อะไรเลย จะบริหารประเทศอย่างไร จะแก้ปัญหาที่หมักหมมมาตลอด 8 ปีได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลและสิ้นหวังอย่างยิ่งทั้งพี่ใหญ่ น้องกลางและน้องเล็กกอดคอร่วมหัวจมท้ายกันมานานกว่า 8 ปี พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ครม.หรือรัฐบาลขณะนี้เปรียบได้กับ "เป็ดง่อย” พิกลพิการ ทำอะไรไม่ได้
องค์ประกอบของครม.ก็ขาดวิ่น มีรูโหว่เต็มไปหมดไม่ต่างจากกระชังก้นรั่ว ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ปล่อยให้รัฐมนตรีช่วยว่างอยู่ 2 ตำแหน่งมาเกือบ 1 ปีเต็ม คือ การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก รมช.เกษตรและสหกรณ์ และปลดนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจาก รมช.แรงงาน ซึ่งปล่อยให้ว่างมาเกือบปี ปล่อยให้การบริหารราชการแผ่นดินขาดตกบกพร่อง
นอกจากนี้ล่าสุดศาลฎีกามีคำสั่งให้ กนกวรรณ วิลาวัลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมช.ศึกษาธิการ อีก และในวันที่ 14 ก.ย. มีกรณีที่ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย จะถูกศาล รธน.วินิจฉัย ให้พ้นจาก รมต.หรือไม่ฉะนั้นปัจจุบันเท่ากับว่าตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยของรัฐบาลเป็ดง่อยสภาพ “เตี้ยอุ้มค่อม” ว่างอยู่ 3 ตำแหน่งสำคัญ และรอการพิจารณาว่าจะขาดไปอีก 1 ตำแหน่ง ทั้ง ครม.ที่คัดเลือกมาจากฝีมือของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตะทำให้ขาดเอกภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ประเทศจะเดินมาถึงจุดที่ไร้เสถียรภาพขั้นสูงสุด จนกลายเป็นบ่อเกิดของระบบอุปถัมภ์ที่เฟื่องฟู อย่างกรณี ส.ต.ท.หญิง ที่กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในแวดวงสีกากี ลามไปถึงวงการลายพรางในวันนี้