รายงานฉบับล่าสุดของหน่วยงานด้านกลาโหมของสหรัฐฯอย่างเพนตากอน ระบุว่า จีนกำลังขยายอำนาจทางการทหาร ผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ในการลงทุนของจีน ซึ่งที่ผ่านมาจีนได้เข้าไปตั้งฐานทัพในหลายประเทศที่จีนเข้าไปลงทุน เช่น เมื่อเร็วๆ นี้วอชิงตันโพสต์รายงานว่า บริเวณทางตะวันออกของประเทศทาจิกีสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งประเทศที่จีนเข้าไปลงทุนการคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานได้มีกองกำลังของจีนจำนวนมากอยู่ในแถบนั้น สืบเนื่องในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมต่อระหว่างจีนและปากีสถาน
รายงานดังกล่าวยังระบุว่า จีนมียุทธศาสตร์ที่หลากหลายเพื่อรับเทคโนโลยีต่างๆ ทางทหาร และใช้ประโยชน์จากการลงทุนในต่างประเทศ การโจรกรรมข้อมูลไซเบอร์รวมไปถึงการลงทุนของต่างชาติในจีนเอง เพื่อรับเทคโนโลยีเหล่านั้นมาทำการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน ผ่านความร่วมมือทางด้านวิชาการและการสรรหาทรัพยากรต่างๆ
พลเอกโจเซฟ ดันฟอร์ด ผู้บัญชาการกำลังทหารของกองทัพสหรัฐฯ ได้เตือนสภาคองเกรสว่า บริษัทของอเมริกันที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในจีนนั้นได้สร้างประโยชน์ในทางอ้อมให้แก่กองทัพจีน อย่างกูเกิล เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับที่รายงานของเพนตากอนระบุว่า จีนใช้เทคนิคต่างๆ ในการสอดแนมและรับเทคโนโลยีจากการใช้เทคโนโลยีร่วมกัน หรือการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารจากสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาอาวุธและกำลังทางการทหารของตนเอง
ทั้งนี้ พื้นที่เป้าหมายของการขยายฐานทัพของจีนนั้นรายงานระบุว่า พื้นที่ในตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพื้นที่ทางทะเลฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่จีนเล็งไว้เพื่อขยายอำนาจทางการทหาร ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ระหว่างจีนและประเทศในแถบเอเชียอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาจีนได้มีการทดสอบกำลังทางการทหารในทะเลจีนใต้อยู่เสมอ
“ผู้นำของจีนกำลังใช้ประโยชน์จากอิทธิพลทางเศรษฐกิจ การทูตและการทหารของจีนที่กำลังเติบโต เพื่อสร้างจุดเด่นในระดับภูมิภาคและขยายอิทธิพลระหว่างประเทศของจีน”
อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศเริ่มตั้งคำถามถึงการขยายตัวของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน แต่จีนก็ได้มีการตอบโต้ผ่านการลงทุนและการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศเสมอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง