วันที่ 3 ต.ค. มีรายงานว่า การลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยใน จ.ขอนแก่น ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะ ในจุดแรกบริเวณบึงหนองโคตร หน้าวัดศรีสะอาดหนองโคตร มีผู้ชุมมารวมตัวต่อต้านกันทำให้คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเปลี่ยนกำหนดการไปอีกจุดของบึงหนองโคตร เพื่อตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการสูบน้ำด้วยเครื่องแรงดันสูงในการป้องกันอุทกภัย
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยคณะของนายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ขอนแก่น มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดง กรมการปกครอง กระจายกำลังดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด พร้อมตั้งจุดตรวจสกัด เพื่อตรวจรถที่จะผ่านเข้าพื้นที่ที่คณะ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปดู เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้าน
โดยจุดแรกเมื่อมาถึง จ.ขอนแก่น พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยในขอนแก่น ที่สนามบินขอนแก่น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดขอนแก่น ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้เป็นการมาตำหนิใคร แต่ต้องการมาช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และขอให้ทุกฝ่ายพยายามเยียวยาอย่างทั่วถึง ทั้งนี้แนวทางการแก้ปัญหามีแผนงานโครงการของทุกจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งหลายโครงการมุ่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2565 และบางโครงการมุ่งให้สำเร็จในปี 2566
นายกฯ กล่าวย้ำว่า การระบายน้ำในพื้นที่และการพร่องน้ำต่างๆจะต้องบูรณาการไม่ให้เกิดผลกระทบกับ ประชาชน ซึ่งภาพรวมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่น้ำมาก บางพื้นที่น้ำน้อย ดังนั้นจะต้องมาพิจารณาหาแนวทาง เพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกันในเรื่องของการกักเก็บน้ำ
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้หากยังมีฝนตกในปริมาณมากกว่าที่จะระบายน้ำได้ทัน ก็ยังจะมีปัญหาอยู่เช่นนี้ และไม่ใช่การแก้ตัว แต่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด หากอะไรที่สามารถป้องกันได้ก็ให้ดำเนินการไป เช่น การปกป้องโรงพยาบาล พื้นที่เศรษฐกิจ แต่หากเรื่องไหนทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการแก้ไข เพื่อให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล อาหาร น้ำสะอาดและพื้นที่พักพิง
สำหรับการแก้ปัญหาต้องสรุปและแบ่งเป็นกลุ่มในการเยียวยาให้ทั่วถึง เช่นกลุ่มเกษตรกร ภาคธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะนายกฯ และรัฐบาลได้สั่งการให้เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการให้เร็วที่สุดในทุกพื้นที่ รวมถึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาช่วยในเรื่องของอาหาร อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยชาติช่วยประชาชน และนั่นคือสิ่งที่จะรวมพลังคนไทยทั้งหมด และจะสามารถแก้ได้ทุกปัญหา มากบ้างน้อยบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง นั่นคือประเทศไทยหากไม่ทำเช่นนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้ ถือว่าไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง
จากนั้นเวลา 10.26 น. นายกฯ เดินออกจากท่าอากาศยานขอนแก่น ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ด้วยรถยนต์ทรานฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สีส้ม ทะเบียน 1 นข 4001 กรุงเทพมหานคร ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และตรวจระบบการทำงานของ เครื่องสูบน้ำแรงดันสูง ณ บึงหนองโคตร หน้าวัดศรีสะอาดหนองโคตร ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น
มีรายงานว่า เมื่อนายกฯ คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานขอนแก่น ได้หยุดโบกมือทักทายประชาชนที่อยู่อาคารติดกับสนามบินด้วยอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางลงพื้นที่ครั้งแรก หลังกลับมาปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำตัดสินประเด็นวาระนายกฯ
ภายหลังรับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยในขอนแก่น ที่สนามบินขอนแก่น คณะนายกฯเดินทางมาจุดแรกบริเวณริมบึงหนองโคตร เพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการสูบน้ำด้วยเครื่องแรงดันสูง
ทั้งนี้ เมื่อมาถึงจุดแรกบริเวณริมบึงหนองโคตร พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังรายงานมาตรการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ โดยช่วงหนึ่งได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ ว่า "ขอบคุณทุกคนนะ ขอบคุณ ทำให้เต็มที่" ก่อนระบุอีกว่า ในส่วนของเครื่องปั่นไฟก็กำลังไปหามาให้ และฝากผู้บริหารส่วนราชการในพื้นที่ฝากดูแลกำลังพลให้ดี ให้ปลอดภัย
เมื่อถามว่า กังวลไหมช่วงนี้น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ นายกฯ ยอมรับว่า กังวล
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินไปหากลุ่มประชาชนที่มายืนดู พร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณมาก ฝากความคิดถึงไปทุกจังหวัดนะ เพราะน้ำท่วมเกือบทุกจังหวัด พร้อมชูกำปั่นมือข้างขวาและทุบที่อกฝั่งซ้าย ก่อนระบุว่า กำลังใจ เชื่อมั่นใจพวกเรา(ประชาชน)นะ เรารักสามัคคีกัน รวมมือกัน เชื่อฟังคำแนะนำและการปฏิบัติเดี๋ยวมันก็คลี่คลายนะจ๊ะ เดี๋ยวเดือนร้อนต่างๆรัฐบาลดูแล โอเคไหมนะจ๊ะ รักทุกคน"
สำหรับขณะที่จุดต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ จะไปตรวจสถานการณ์และเยี่ยมผู้ประสบภัยบริเวณ ที่วัดเทพนิมิตรวนารามและไปพบประชาชนประมาณ 500 คน ที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดขอนแก่น ก่อนเดินทางต่อไปยัง จ.อุบลฯ ในช่วงบ่าย
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยคณะของนายกฯ ในพื้นที่ขอนแก่น มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดง กรมการปกครอง กระจายกำลังดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด หลังมีการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านในพื้นที่