พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาค่าฝุ่นละอองเกิดค่ามาตราฐาน หรือ PM 2.5 ว่าที่ประชุม ครม.วันนี้ (1 ต.ค.) ได้พิจารณาแผนปฏิบัติการแก้ปัญหาของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1 ระดับปกติไม่เกิน 100 ไมโครกรัม ซึ่งหากเกิน 100 ไมโครกรัม จะมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงต้องดูแลในเรื่องของกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กและสตรีมีครรภ์ ซึ่งวันนี้สถานการณ์ดีขึ้นจากสภาพอากาศ และมีการเสริมมาตราการจราจร เข้มงวดการใช้ยานพาหนะ และห้ามเผา ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้ว ว่ามีความยากในการบังคับใช้กฏหมาย เพราะเกษตรกรหลายคนยังมีปัญหาอยู่
ซึ่งได้สั่งการแก้ปัญหาก่อนเกิดวิกฤตไปแล้ว โดยแบ่งออกเป็นระดับ ไม่เกิน 100 ไมโครกรัม ไม่มีผลต่อสุขภาพ ระดับ 2 ค่าฝุ่น 51-755 ไมโครกรัม ระดับ 3 ค่าฝุ่น 76-100 ไมโครกรัม ระดับ 4 ค่าฝุ่นเกิน 100 ไมโครกรัม ซึ่งหากเกิน 100 จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการ และรัฐบาลต้องออกมาตราการที่เข้มงวด สั่งการในระดับประเทศ และต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการบังคับใช้กฏหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อยากละเว้น แต่เวลามีผลกระทบประชาชนก็ไม่ยอม จะต้องแก้ปัญหากันต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยงไว้แล้ว ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง ให้หลีกเลี่ยงทำกิจกรรม ออกกำลังกายกลางแจ้ง ถ้าจำเป็้นต้องออกนอกบ้าน ให้สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้แจกจ่ายในทุกจังหวัด หากไม่พอให้ขอมาได้ที่ส่วนกลาง ขณะที่กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และ กทม. ขอความร่วมมือประชาชน งดการเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิด เพราะไม่อยากใช้กฏหมายและต้องให้รับผิดชอบร่วมกัน
รวมถึงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทดแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพเครื่องยนต์ท่อไอเสีย รถควันดำจะต้องเข้มงวด และทุกพื้นที่หากตรวจพบรถควันดำ ต้องงดใช้งาน จนกว่าจะมีการปรับปรุงแก้ไข ขณะกระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้ขอความร่วมมือพื้นที่ก่อสร้าง โรงงานอุตสสาหกรรม ลดการระบายฝุ่น และมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะใน กทม. และปริมณฑล ต้องขอลดปริมาณฝุ่นให้ได้ ต้องให้ฉีดพ่นน้ำ ช่วงที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้น
โดยวันนี้กระทรวงมหาดไทยได้จัดเตรียมเครื่องฉีดพ่นละอองไอน้ำใช้ในพื้นที่ที่มีค่าปริมาณฝุ่นสูงขึ้น ขณะเดียวกันกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าอากาศที่ปิด เป็นเหมือนโดมครอบประเทศไทย จากสภาพอากาศเย็น สภาพอากาศในจีนก็นิ่ง ไม่มีลมมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอากาศหนาวมาเร็ว ทำให้มีโดมครอบ ฝุ่นละอองไม่กระจาย จึงขอให้ปรชาชนดูแลสุขภาพด้วย โดยรัฐบาลจะพยายามเต็มที่ในการแก้ปัญหา ทั้งเรื่องการจัดทำฝนหลวงที่พร้อมบินทันที รวมถึงความร่วมมือกับต่างประเทศ ได้มีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง ทุกประเทศให้ความสำคัญ กับปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เป็นวาระหลักในการประชุม สมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 74 ด้วย เพราะทุกประเทศมีส่วนทำให้เกิดสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ วาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าล่าสุด พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้หน่วยทหารของกองทัพบก ประสานกับจังหวัดและส่วนราชการที่รับผิดชอบ ร่วมกันดูแลประชาชน และแก้ไขปัญหาตามแนวทางของรัฐบาลโดยด่วนโดยได้สั่งการให้หน่วยทหารจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ ออกตรวจสุขภาพ แจกจ่ายหน้ากากป้องกันฝุ่น พร้อมให้กองทัพบกสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ และกำลังพลเพื่อออกปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ในการล้างทำความสะอาดพื้นที่และฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศ จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานจะคลี่คลาย