ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมสภาฯ เลือก 'ศุภชัย โพธิ์สุ' เป็นประธานสภาฯ คนที่สอง ได้ 256 คะแนน ขณะที่ 'นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์' ได้ 239 คะแนน โดยมี ส.ส.เพื่อไทย ประท้วงเรื่องความสับสนการเขียนนามสกุล แม้ว่าจะวินิจฉัยไปแล้วว่าให้นับเป็นคะแนนได้

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่สอง ช่วงบ่าย นายชัย ชิดชอบ ประธานชั่วคราวในที่ประชุม ได้เปิดประชุมสภาฯ อีกครั้ง เวลา 14.00 น. เพื่อเริ่มดำเนินการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 โดยนายธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เสนอ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.จ.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ขณะที่นายอารีย์ ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ เสนอนาย นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย

ทั้งนี้ระหว่างการนับคะแนน มี ส.ส.ได้ถ่ายคลิปการนับคะแนน ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม.พรรคเพื่อไทย ได้ท้วงติงและขอให้เลิกการถ่ายคลิป เพราะเป็นการลงคะแนนลับ เกรงว่าจะมีการนำไปตรวจสอบว่าลงคะแนนครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ และไม่เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะจำชื่อนามสกุลของทั้งสองคนผิด ทั้งนี้หลังการประชุมพรรคเพื่อไทยเตรียมตัวเป็นฝ่ายค้านอยู่แล้ว จึงอยากให้การประชุมเป็นไปโดยเร็ว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าว่า หากเขียนนามสกุลผิด ประธานต้องวินิจฉัยให้เป็นบัตรเสีย เพื่อให้บันทึกไว้เป็นบรรทัดฐาน เชื่อว่าการประชุมจะจบและดำเนินต่อไปได้

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เชื่อว่าคนที่เขียนนามสกุลผิด ไม่ได้มีเจตนาเลือกผิด เพราะชัดเจนว่าไม่เลือก นพ.ประสงค์ ทั้งนี้เห็นว่าการนับบัตรใบแรกที่เห็นว่าเสีย กรรมการได้ดูเจตนาแล้วว่าเป็นบัตรดี ได้ใช้อำนาจแล้ว ดังนั้นสมาชิกไม่ควรให้นำกลับมาวินิจฉัยอีก

นายชัย กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นโลกดิจิทัล เป็นเรื่องที่ทั่วโลกทำกัน อย่าถือสาเรื่องอย่างนี้ และขอวินิจฉัยว่าขอทำงานต่อ เพื่อให้การประชุมได้สำเร็จลุล่วง ต่อไปขอให้งดการถ่ายภาพ

ประชุมสภา

ทั้งนี้ ภายหลังการนับคะแนนเสร็จ มี ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ยังต้องการให้วิจิฉัยเรื่องนามสกุลที่เขียนผิดอย่างต่อเนื่อง

นายชัย กล่าวว่า มีอะไรขอให้เสนอเป็นญัตติในการประชุมครั้งต่อไป ประชุมมาสองวันเต็มๆ แล้ว ขอให้มีเมตตาธรรม ค้ำจุนโลก จากนั้นได้ประกาศผลการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 2 และขอให้ที่ประชุมตบมือให้เกียรติผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนจังหวัดนครพนมด้วยกันไม่น่าจะแข่งกันเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว วาระการทำหน้าที่ถือว่าหมดแล้ว และถือโอกาสอำลาประธานชั่วคราวในวาระนี้ จากนั้นได้สั่งปิดประชุม 

สำหรับประวัติ นายศุภชัย โพธิ์สุ มีชื่อเล่นว่า 'แก้ว' หรือ 'ครูแก้ว; เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 ที่จังหวัดนครพนม สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพครู จากวิทยาลัยครูสกลนคร ระดับปริญญาตรีสาขาการบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และระดับปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นายศุภชัยได้หลบหนีไปเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ป่าภูพาน มีชื่อจัดตั้งว่า 'สหายแสง' รับหน้าที่ปลุกระดมมวลชนแถบอำเภอเรณูนคร และอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เมื่อออกจากป่าได้เข้าเรียนต่อครูจนจบ และรับราชการครูที่อำเภอศรีสงคราม ก่อนจะลาออกมาทำงานการเมืองจนถึงปัจจุบัน โดยเริ่มต้นมาจากการที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาจังหวัด (ส.จ.) มาก่อน

ด้านงานการเมือง นายศุภชัย เป็นแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ให้การสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากที่คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้นสภาพไปเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคพลังประชาชน เมื่อปลายปี พ.ศ. 2551 และได้ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายหลังจากที่พรรคภูมิใจไทยมีมติให้นายชาติชาย พุคยาภรณ์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อเปิดทางให้นายศุภชัย ดำรงตำแหน่งแทน

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 นายศุภชัยลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครพนม แต่แพ้ให้กับนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ จากพรรคเพื่อไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: