ไม่พบผลการค้นหา
ที่ประชุมสภาฯ ลงคะแนนเลือก "สุชาติ ตันเจริญ" ส.ส.จ.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ด้วยคะแนน 248 คะแนน ขณะที่ 'เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์' ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ 246 คะแนน

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่สอง มีการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าใช้วิธีลงคะแนนลับ โดยมีผู้เสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.จ.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่

ภายหลังการลงคะแนน ปรากฎว่า นายสุชาติ ได้ 248 คะแนน ขณะที่ น.ส.เยาวลักษณ์ ได้ 246 คะแนน จาก ส.ส. 494 คน

สำหรับนายสุชาติ ตันเจริญ เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร สำเร็จการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ จาก Notre Dame de Namur University ประเทศสหรัฐอเมริกา

นายสุชาติ เป็นบุตรชายของนายวิเชียร และนางสุภา ตันเจริญ อีกทั้งเป็นน้องชายของนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และมีศักดิ์เป็นอาของนายณัชพล ตันเจริญ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดฉะเชิงเทรา ปัจจุบันมีบุตรชาย 2 คน คือ นายคชาภา ตันเจริญ (มดดำ) ดารานักแสดง ดีเจ และ พิธีกรชื่อดัง และนายศักดิ์ชาย ตันเจริญ (มดเล็ก)

ส่วนการทำงาน นายสุชาติ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดฉะเชิงเทรา 8 สมัย เคยสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้ง พรรคประชาธิปัตย์ พรรคสามัคคีธรรม พรรคไท พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2538 เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2548

นายสุชาติ เคยลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคไท ในปี พ.ศ. 2539 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. เพียงคนเดียวของพรรค นอกจากนั้นยังเคยดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคการเมืองถึง 2 พรรค คือ พรรคชาติไทย และพรรคไทยรักไทย ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[4] จึงได้นำสมาชิกในกลุ่มบ้านริมน้ำ ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน และในปี พ.ศ. 2553 ได้ย้ายไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย

จากนั้นในวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 นายสุชาติได้นำสมาชิกในกลุ่มบ้านริมน้ำของตนเองกว่า 40 คนมาสมัครสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้นายสุชาติ ได้รับฉายาว่า "ตี๋กร่าง" จากการทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรในแบบที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ