นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผย สถิติการจับกุมการลักลอบนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรที่ถูกต้อง สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าที่เป็นภัยต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ สินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง (ดีเซลและเบนซิน) เหล้าและไวน์ บุหรี่ สินค้าแบรนด์เนม สินค้าพืชผลทางการเกษตร ยาเสพติด ธนบัตรต่างประเทศ อะไหล่รถยนต์และจักรยานยนต์ ในรอบ 5 เดือน (ต.ค. 2561 - ก.พ. 2562) รวมมูลค่าของกลาง 598.62 ล้านบาท จากจำนวน 1,902 แฟ้มคดี
นายธาดา ชุมไชโย ผู้อำนวยการส่วนนักสืบสวนและปราบปราม ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เมื่อเทียบสัดส่วนการตรวจจับสินค้าในเชิงมูลค่าและปริมาณ พบว่า สินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง (ดีเซลและเบนซิน) เหล้าและไวน์ บุหรี่ สินค้าแบรนด์เนม มีสัดส่วนมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันตรวจจับได้แล้วกว่า 1 ล้านลิตร
นายศิริศักดิ์ ตั้งสุภากิจ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนและปราบปราม 1 ชี้แจงเพิ่มว่า สาเหตุที่มีการลักลอบขนส่งน้ำมันอย่างผิดกฏหมายมากขึ้น แม้ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกจะลดลง มาจากการที่รัฐบาลปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต โดยน้ำมันดีเซลปรับขึ้นถึง 5 บาท ทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากภาษีตรงนี้
อย่างไรก็ตาม สินค้าประเภทยาเสพติดและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีสถิติการจับกุมน้อยลง อันเนื่องมาจากขบวนการลักลอบขนสินค้าผิดกฏหมายเหล่านี้มีวิธีการที่ซับซ้อนขึ้น
"กรมศุลกากรได้ให้ความสำคัญและมีการดำเนินการอย่างจริงจังมาโดยตลอด" นายชัยยุทธ กล่าว
ในงานแถลงข่าววันนี้ กรมศุลกากรยังนำเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศ โดยใช้ มาตรการ 3 ด้าน ได้แก่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :