เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2563 ที่บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า มีกลุ่มมวลชนจำนวนมาก เดินทางเข้ามารวมตัวกันภายหลังที่ได้แจ้งนัดหมายรวมพลในนาม 'ชาวฝั่งธนฯ จะไม่ทนเผด็จการ' เมื่อเวลา 17.00 น. โดยบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนเดินทางเข้าร่วมต่อเนื่องเกือบเต็มบริเวณลานด้านหน้าห้างฯ ซึ่งตลอดการชุมนุมมีการสลับหมุนเวียนบุคคลร่วมกล่าวปราศรัย
ทั้งนี้ผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเยาวชน หรือนักเรียนโรงเรียนในพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมใจชู 3 นิ้วร่วมกันพร้อมตะโกนเป็นระยะๆ ว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” “ประยุทธ์ ออกไปๆ” “ประเทศไทยเป็นของประชาชน” และพร้อมทั้งตะโกนให้ปล่อยตัวแกนนำและหยุดคุกคามประชาชน
ขณะที่เวลา 17.30 น. มีบุคคลที่ไม่สนับสนุนมวลชน ได้ถือรูปพระบรมฉายาลักษณ์ฯ โดบบอกว่าตนทนมานาน ที่ต้องการออกมาวันนี้เพื่อมาแสดงออกเชิงลักษณ์ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนตัวไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่ที่ต้องออกมาเพราะบ้านอยู่ละแวกนี้ และได้รับข่าวนัดรวมตัวกันที่นี่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามากันชายคนดังกล่าวออกไป เนื่องจากหวั่นว่าจะมีกระทบกระทั่งเกิดขึ้น
จากนั้นในเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมได้ร่วมเพลงชาติไทย พร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ก่อนจบประโยคด้วยไชโย แด่ประชาชนและประเทศไทย
เวลา 19.00 น. ยังคงมีประชาชนจำนวนมากถยอยเดินทางเข้ามารวมชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เต็มบริเวณพื้นที่ลานด้านหน้าห้างฯ ต่อเนื่องมาจนถึงบริเวณถนนบรมราชชนนีฝั่งขาออก ซึ่งขณะนี้สามารถสัญจรได้เพียง 1 ช่องจราจรจาก 4 ช่องจราจร
บรรยากาศการตลอดการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก มีการสลับบุคคลร่วมกล่าวปราศัยเป็นระยะ ๆ ซึ่งไม่มีมีแกนนำ โดยมวลชนยังคงเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม ต้องลาออก 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยหนึ่งในผู้ปราศัย ระบุว่า “ถ้ารัฐบาลดี เกษตรกรก็คงไม่ต้องเลิกอาชีพทำการเกษตร แล้วดิ้นรนเข้ามาทำงานในเมืองเพื่อส่งเงินให้ลูกหลาน”
ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และมีเจ้าหน้าที่จาก สน.บางยี่ขันดูแลความสงบเรียบร้อย
เวลา 20.30 กลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ประกาศยุติชุมนุม