เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 22 พ.ย. 2565 ดร.ทักษิณ ชินวัตร (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม กล่าวในรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘APEC 2022 จะปังแค่ไหน ถ้าให้พี่ “ตัวตึง” เป็นคนจัด’ โดยในช่วงต้นได้ให้ความเห็นถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกประจำปี 2022 ที่ประเทศกาตาร์ซึ่งคู่ที่ผ่านมา ทีมชาติอาร์เจนตินาได้พ่ายให้กับทีมชาติซาอุดีอาระเบีย 2 ต่อ 1
“ผมว่าคนไทยคงเสียให้อาร์เจนตินาหลายตังค์อยู่ เพราะนึกว่าอย่างไรอาร์เจนตินาต้องชนะ คือทีมนี้ ส่วนตัวแต่ละคนเก่ง ดาราเยอะ แต่เล่นเป็นทีมเวิร์คมีปัญหามาหลายนัดแล้วกับการแข่งบอลโลก เขามีปัญหาเรื่องทีมเวิร์คจริงๆ ตอนนี้ทุกคนคงได้ดูสมใจแล้วนะ แต่จะด้วยช่องทางวิธีไหน ผมก็จำไม่ได้ แต่ว่าคนไทยได้ดูก็ดีใจแล้ว”
จากนั้น โทนี่ กล่าวถึงเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุดเอปคของตำรวจคุมฝูงชน (คฝ.) เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าทำรุนแรงเกินไป น้องๆ ตำรวจทั้งหลาย อย่างน้อยคนไทยด้วยกัน เวลาเขามาแสดงความเห็นต่างโดยไม่มีอาวุธ อย่าใช้ความรุนแรงเลย ไม่ดีหรอก อย่าไปรังเกียจเขา เขาไม่ได้มาแสดงตัวล้มล้างสถาบันฯ อะไรเลย เขามาแค่ยื่นหนังสือประท้วงเนื้อหาในการประชุมเอเปคที่เห็นว่าไม่ชอบธรรม
“ก็ฟังเขาไว้ไม่เห็นเป็นไร ทางรัฐบาลก็ส่งตัวแทนมารับหนังสือ คุยกันบ้าง ไม่ใช่ว่าเอากระสุนยางไปแจก แล้วยิงประชิดด้วย จนมีคนตาบอด อันนี้ขอตำหนิจริงๆ ตำหนิทั้งรัฐบาล ทั้งตำรวจ ไม่ควรใช้ความรุนแรง เราคนไทยด้วยกัน ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้” โทนี่ กล่าว
โทนี่ บอกว่า ถ้ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชน นี่เป็นหลัก ตอนสมัยก่อนการปิดถนน ปิดเท่าที่จำเป็น เราจะประชาสัมพันธ์อย่างดี เพื่อให้คนได้รู้ตลอด เพราะสังคมไทยไม่อยากรับรู้อะไร ต้องต่อสู้ไปวันๆ ดังนั้น ต้องขยันบอกไปเรื่อยๆ แต่อันนี้นำ คฝ.ไปเฝ้าเป็นหุ่นยนต์อยากจะตีก็ตี หลักการต้องทำให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ทั้งบริเวณและเวลา แต่ใจรักประชาชนหรือไม่ ถ้าบอกว่าประชาชนเป็นหนี้บุญคุณมาปกครองก็ถือว่าจบกัน
สำหรับการจัดประชุมเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพที่ผ่านมา โทนี่ กล่าวว่า ถือว่ารัฐบาลจัดได้ดีในระดับที่ใช้ได้ แต่สารัตถะที่เป็นหัวข้อของการประชุมเอเปค คือ Bio-Circular-Green Economic Model (BCG) และพูดถึง Millenium Goal ซึ่งเป็นเป้าหมายในช่วงปี 2000 ของ UN แต่ปัจจุบันปี 2022 แล้ว เราอาจยังสนใจอยู่เพราะเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่คนอื่นไม่ได้สนใจด้วยมากนัก เพราะไปสนใจเรื่องอื่นที่ท้าทายกว่า เช่น เทคโนโลยี หรือภัยคุกคามใหม่ๆ และยังฝากไปยังกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ ว่าต้องตื่นตัวให้มากกว่านี้ ต้องคิดอย่างเป็นสากล ไม่ใช่คิดในระดับท้องถิ่น ไม่เช่นนั้นเราจะล้าหลัง
โทนี่ ยังกล่าวว่าหลังไทยจัดการประชุมเอเปคผ่านพ้นไป เหมือนเด็กออกจากห้องสอบคือดีใจว่าจบแล้ว แต่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้ที่ได้ ตนไม่ค่อยมั่นใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่าจะมีคนมาลงทุนเป็นแสนล้าน เพราะบรรยากาศของไทยวันนี้ไม่ค่อยเอื้ออำนวย และยังมีประเด็นการสลายการชุมนุม หรือการออกหมายจับอดีตนายกฯ (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) โทษฐานย้ายข้าราชการ (ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาธิการ สมช.) สะท้อนถึงหลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่ไม่ดี ส่งผลให้ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนด้วย
“ถ้าคนไม่เชื่อถือในระบบนิติธรรมของประเทศไหนแล้ว เขากลัวการจะเอาเงินสินทรัพย์ไปฝากไว้ที่ประเทศนั้น ถ้าวันนี้ประเทศไทยยังไม่ปรับปรุงหลักนิติธรรม ยังใช้องค์กรอิสระเข่นฆ่าฝ่ายตรงข้ามอยู่ ผลสุดท้ายบ้านเมืองจะพังคามือพวกบ้าอำนาจ”
“วันนี้ผมเป็นคนที่ได้รับความยุติธรรมแทบจะเป็นศูนย์ ทั้งที่จบปริญญาเอกมาทางด้านนี้นะ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมไม่เคยเสียใจกับเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น มองไปข้างหน้าอย่างเดียว อยากมองข้างหน้าให้คนไทย ประเทศไทย วันนี้ประเทศไทยล้าหลังมาก แม้การเลือกหัวข้อการประชุมระดับโลก ที่เป็นเจ้าภาพ 10 ปีครั้ง เรายังเลือกข้อมูลที่ล้าหลังมาก”
สอนมวยนายกฯ เดินสายสำคัญ
โทนี่ ยังยกตัวอย่างความสำเร็จของการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่ง โจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ และได้ออกเดินสายหลายประเทศอย่างจริงจังเพื่อเตรียมการจัดประชุม ย้ำว่านายกฯ ต้องทำการบ้าน และนายกฯ มีเวลาทำการบ้านเยอะเพราะเป็นมาตั้ง 8 ปีแล้ว ตนอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินสายบ้าง ยิ่งอยากอยู่ต่อต้องยิ่งเดินสายเยอะ ไม่เช่นนั้นประเทศจะเฉาเหมือนอยู่ในรูปู
“ไม่อยากให้ไปเพื่อไปจับมือถ่ายรูป แต่ต้องมีกลยุทธ์ว่าจะไปเพื่ออะไร ต้องไป ต้องลุย ไม่งั้นเศรษฐกิจของประเทศจะถึงทางตัน เราคิดว่าจะค้าขายทำมาหากินอยู่ในประเทศ และเรื่องส่งออกก็ให้กลไลผู้ค้าส่งออกทำไปเรื่อยๆ ละกัน สักวันบุญเก่าจะหมด เราต้องสร้างบุญใหม่ให้คนรุ่นใหม่ด้วย สำคัญมากที่นายกฯ ต้องเดินทางต่างประเทศ แต่ตอนนี้คงออกยากแล้ว คงไม่อยากทิ้งบ้านให้พี่ป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี)”
โทนี่ ยังได้เสนอว่า ถ้าตนเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปีล่าสุด จะจัดให้ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มาหารือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพราะประเด็นสำคัญของโลกตอนนี้คือสงครามที่ยังไม่ยุติ ในเมื่อไทยก็เชียร์เขา ไม่ประณามเขาอยู่แล้ว เราควรต้องพา ปูติน มาคุยกับเขา ดังนั้น การจัดเวทีใหญ่ไม่ใช่แค่หัวข้อการประชุม แต่เรื่องราวข้างเคียงยังน่าสนุกมาก ต้องอาศัยความสนิทเป็นกันเองระหว่างผู้นำ ทำให้เกิด Backdoor Diplomacy ที่สร้างความปรองดอง
ในช่วงหนึ่ง ผู้ดำเนินรายการตั้งคำถามต่อ โทนี่ ว่า สิ่งที่อธิบายมีความซับซ้อน ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลนี้จะมีความสามารถทำได้หรือไม่ ควรแนะนำนายกฯ คนต่อไปเลยดีกว่าหรือไม่
โดย โทนี่ ตอบทันทีว่า “นายกฯ คนต่อไปเนี่ย ผมเล่าให้ฟังบ่อย ไม่รู้ใครนะ เพราะส่วนใหญ่ผมรู้จักทั้งนั้น”
โมนี วิเคราะห์ถึงทิศทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังดูศักยภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติ หากมีแนวโน้มได้คะแนนเสียงมากก็จะยุบสภาฯ แต่หากแนวโน้มได้คะแนนน้อยก็จะอยู่จนครบวาระ เพราะวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถหวังคะแนนจากพรรคพลังประชารัฐได้แล้ว อีกทั้งไม่แน่ใจว่าจะมี ส.ส.เหลืออยู่เท่าไหร่ เป็นการเมืองที่น่าเหนื่อยแทนประเทศไทย
สำหรับ ส.ส.ที่จะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น มีกลุ่ม ส.ส.ของ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประมาณไม่เกิน 12 คน และ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่สอบตกคราวที่แล้ว แต่เห็นว่ากระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ ดีในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนนักการเมืองในสภาฯ ชุดปัจจุบันนี้คงมีไปร่วมไม่มาก
โทนี่ ยังมองว่า ถือว่ายากที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้เกิน 25 ที่นั่ง เพราะมีแต่ ส.ส. รุ่นเก่าที่สอบตก มาร่วม และนายกฯ แม้ชนะก็อยู่ได้อีกเพียง 2 ปี อีกทั้งเสน่ห์ของนายกฯ ก็ลดลงไปมากแล้ว จึงยังนึกไม่ออกว่าจะดึงกระแสมาได้อย่างไร
โทนี่ ยังประเมินคะแนนเสียงของคนรุ่นใหม่ว่าจะมีมากมาย เพราะเป็นกลุ่มที่มองไม่เห็นอนาคตของตัวเองในรัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ไม่ให้คะแนน 3 ป. และพยายามไขว่คว้าผู้ที่มอบอนาคตให้เขาได้
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะแถลงคำวินิจฉัย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 30 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งหรือไม่ โดย โทนี่ หวังว่า ทุกคนคงเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เพราะความจริงแล้วกฎหมายบ้านเราดิ้นได้ จะให้ตีความออกทางไหนก็ได้ เมื่อไหร่ที่มองเห็นหน้าคนนั้นคนนี้ ก็จะตีความดิ้นไปทางอื่น จึงขอให้ยึดหลักนิติธรรม ขอให้ผู้หลักผู้ใหญ่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมของคนรุ่นหลัง
ดักคอหากยื้อเลือกตั้งหน้าด้านไม่เคารพกติกา
ในช่วงท้ายรายการมีคำถามถึงความเป็นไปได้ในการยื้อการเลือกตั้งทั่วไป โทนี่ ระบุว่า คงยื้อไม่ได้ตามกฎหมาย เพราะต้องเลือกตั้งใน 7 พ.ค. 2566 เพราะถ้าทำต่อไปนั้นไม่เรียกว่ายื้อ เขาเรียกว่าแหกกฎหมาย หน้าด้านสุดๆ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่น่าจะเกิด การอยู่ร่วมกันในสังคมถ้าไม่เคารพกติกาก็อยู่ร่วมกันยาก ถ้ากติกาเป็นอย่างนี้
ถามว่า ส.ว.จะเลือกแบบทิ้งไว้ตำนานหรือตามสั่งของใครหรือไม่ โทนี่ ระบุว่า ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งได้คะแนนเกินนกึ่งหนึ่งไม่ต้องคิดมาก ส.ว.ต้องเทใจเพราะเป็นการทำตามประชาชน ถ้าเกิดไม่ไปอย่างนั้น หรือพรรคเพื่อไทยได้ 249 เสียง ก็อาจจะมีความพยายามที่จะเทให้อีกกลุ่มหนึ่ง แต่ความพยายามไม่สำเร็จ เพราะ ส.ว.มี 2 ก้อน ส.ว.ป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กับ ส.ว.ตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ยังไงไม่เอา ส.ว.สองก้อนมาจับมือเพื่อเลือกให้ พล.อ.ประวิตร หรือเลือกให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีฝ่ายละ 100 กว่าเสียง ดังนั้น ส.ว.ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน จะได้หล่อก่อนกลับบ้าน
ย้ำ 'เพื่อไทย' ตั้งเป้า 280 เสียง ดึง 'ชาติไทยฯ-เสรีรวมไทย-ประชาชาติ'ร่วมรบ.
ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเพื่อไทยจะจับมือพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ โทนี่ ไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือใครในวันนี้ แต่พรรคเพื่อไทยจะต้องทำเสียงให้ได้ 280 เสียง แล้วจึงค่อยเอาใครมาเพิ่มความแข็งแกร่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคการเมืองเคยทำงานมาก่อน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ
เผย 'ปูติน' อยากเก็บน้ำมันดิบไว้ที่ศรีราชา แต่ถูก รปห.ก่อน
จากนั้น โทนี่ ระบุตอนหนึ่งว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน กระทรวงการต่างประเทศอ่อนแอมาก ซึ่ง กระทรวงการต่างประเทศ มีคนเก่งๆ เยอะ แต่ว่าพอมาอยู่รัฐบาลนี้ มีปัญหาภาวะผู้นำ ทำให้เสียดาย ถ้านายกฯ ไม่เก่งการต่างประเทศ ตัว รมว.ต่างประเทศก็ต้องเก่งมาก เมื่อรวมกันก็ลงรูไปเลย ตนเสียดายเรื่องการต่างประเทศของไทยมาก
โทนี่ ระบุว่า ก่อนปฏิวัติ ตนได้คุย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เคยบอกว่าจะขอศรีราชาเก็บน้ำมันดิบ รัสเซียไว้ทีนี่เพื่อจ่ายต่อที่นี่ ถ้าไทยจะใช้ก็คิดเงิน เหมือนสำรองให้ไทยฟรีๆ ส่วนซาอุดีอาระเบียมาเจอพล.อ.ประยุทธ์ 2 รอบแล้ว ก็ชวนมาเลย ท่านใจถึงพึ่งได้ ให้มาสำรองน้ำมันที่ไทย เป็นการลงทุนที่ง่ายและดีที่สุด ถ้าทำไม่ได้ก็แย่แล้ว
ข้องใจ 'ประยุทธ์' โยกย้ายได้ แต่ 'ยิ่งลักษณ์' เด้ง 'ถวิล' ถูกสอยพ้นนายกฯ
ถามว่า ตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ที่หลังๆ มีการแต่งตั้งทหาร มาแทนคนในสมช. จำเป็นต้องเป็นทหารอย่างเดียวหรือไม่ โทนี่ ระบุว่า สมช.เป็นหน่วยงานที่ทำงานคู่กับนายกฯ ด้านความมั่นคง ดังนั้น นายกฯ ต้องไว้ใจ ถ้าคนที่นายกฯไม่ไว้ใจต้องเปลี่ยน ถ้าไม่เปลี่ยน ส่วนใหญ่นายกฯจะมองทหารที่เข้าใจดีมานั่ง จุดอ่อน สมช. ข้าราชการจะเก็บตัวเงียบไม่รู้จักใคร อย่างที่สหรัฐอเมริกา มีระบบอุปถัมภ์ จะมีจำนวนหนึ่งที่ให้การเมืองมา ตำแหน่งเลขาธิการ สมช.ถ้าไม่ไว้ใจ มาแทงข้างหลังก็ต้องเปลี่ยน ตนก็เปลี่ยน แต่ตนเปลี่ยนแล้วซวย ได้คนมาเป็น พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ไว้ใจเพราะรู้จักกันมาก่อนเป็นนักธุรกิจ
"ยิ่งลักษณ์ ย้ายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.สอบ ปลดพ้นตำแหน่งนายกฯ เป็นเรื่องที่ เอางี้ดีว่าจะหาเรื่องกัน หาเรื่องให้เข้าใจแต่หาเรื่องนี้ไม่เข้าท่า แต่การย้ายข้าราชการถูกพ้นนายกฯ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ายข้าราชการไม่เป็นไร เพราะบ้านเราไม่มีหลักนิติธรรม ทำให้ความไว้เนื้อเชื้อใจในต่างประเทศนั้นลำบาก" โทนี่ระบุ
เตือนไม่แก้ รธน. นายกฯเจอ ส.ส.ขู่เรียกค่าไถ่
โทนี่ ระบุว่า แต่วันนี้หลังจากปฏิวัติตนแล้วปฏิวัติซ้ำเป็นเจตนารมณ์ชัดเจนต้องการการเมืองอ่อนแอ เมื่อการเมืงอ่อนแอประเทศจะอ่อนแอตาม ดังนั้น ถ้าไม่แก้ไขการเมืองให้แข็งแรง นายกฯ จะเป็นเบี้ยล่างของผู้ำแทน ส.ส.พรรคเล็กพรคน้อย ถึงเวลากฎหมายสำคัญเข้าสภาฯ เรียกค่าไถ่แล้ว สมัยปี 2518-2519 ช่วงนายกฯ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ตนอยู่กับ ปรีดา พัฒนถาบุตร ตนเห็นการเมืองตั้งแต่อายุ 25-26 ปี จะใช้ตนประสานพรรคการเมือง เวลากฎหมายสำคัญเข้าสภาฯ ต้องไปเอาเงินมาจ่ายค่ายกมือให้ ส.ส.สมัยโน้น เพราะรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ เพราะรัฐบาลอยู่ได้ด้วยเงิน ตนต้องไปเดินเอาเงินตามกระทรวงเพื่อมาส่งให้เขา นี่คือความจริง
"นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส จึงบอกว่าการเมืองแบบนี้ไปไม่ได้ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเกิดรัฐธรรมนูญปี 2540 แต่พอแก้ไข ผมเข้ามาแล้วแข็งแรงจึงกระทืบผม แต่กระทืบผมไม่เป็นไร ผมเป็นคนอดทนอยู่แล้ว แต่บ้านเมืองฉิบหายหมด" โทนี่กล่าว
"เห็นบอกว่ามีความพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ไม่มีเทอม (ส.ว.อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกวาระดำตำแหน่ง 8 ปีให้ พล.อ.ประยุทธ์) สังเกตรัฐธรรมนูญออกมาเฮงซวย มันเขียนรัฐธรรมนูญมันเห็นหน้าผมไปทั่ว"
โทนี่ยังระบุด้วยว่า "เที่ยวนี้จะถูกประชาชนสั่งสอน Money Politics (ธนกิจการเมือง ทุจริตเลือกตั้ง) จะประชาชนถูกสั่งสอนอย่างแรง เอาเงินมากูซื้อกูรับหมด แต่จะเลือกอนาคตของตัวเองคอยดู ผมไม่ได้ท้าทายแต่รู้ว่าประชาชนเจ็บ แล้วคิดว่าจะอยู่รอดอย่างไร พวกโสเภณีขายตัว หมดคอยดู"
คาดยุบสภาฯ หากได้กลับมาอยู่อีก 2 ปี ถ้าไม่ชนะอาจอยู่ครบเทอม
ช่วงท้ายผูู้ดำเนินรายการได้พูดถึงกระแสข่าวที่ปรากฎตามสื่อมวลชนว่า ภายหลังการประชุม ครม. ในวันเดียวกันนี้ (22 พ.ย. 2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและมีการสนทนาถึงบรรยากาศการเมือง รวมถึงการเลือกตั้ง ในลักษณะที่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ครบเทอมในเดือน มี.ค. 2566 ทำให้อนุทินพูดขึ้นว่า “ก็ไม่มีใครอยากเสียตังค์เร็วหรอก” พล.อ.ประยุทธ์ จึงพูดขึ้นว่า “งั้นก็อยู่กันไปยันมี.ค.ปีหน้า”
ทำให้ โทนี่ บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สนใจ ชาวบ้านจะเดือดร้อน เศรษฐกิจไปไม่ไหว เขาจะอยู่ จุดของพล.อ.ประยุทธ์ จัดเอเปคแล้วจะอยู่ครบเทอมเหมือนตน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่ครบเทอมกรณีเดียว คือ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาอีก 2 ปี แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้กลับมา 2 ปี พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ครบเทอมแล้วล้างมือ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องดูจากกำลังไพร่พล ที่รวมตัวกันก่อน แล้วเขามองว่ามีโอกาสชนะ แต่ยากจริงๆ แม้จะมีความนิยมในภาคใต้