วันที่ 28 ม.ค. คารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์รายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ถึงกรณีขอรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในฐานะ ส.ส. ระบุ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2556 ตนได้รับเครื่องราชฯ มาเเล้วครั้งหนึ่ง ขณะทำงานประจำสำนักนายกฯ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และครั้งนี้ก็จะเป็นอีกครั้ง ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนประเด็นการรับรองคุณสมบัติภรรยา ก็ถือเป็นเรื่องปกติ
กรณีปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นวิจารณ์การรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ คารม กล่าวว่าเป็นความเห็นของ ปิยบุตร ไม่ใช่ความเห็นของตน จุดยืนของพรรคก้าวไกลบางเรื่องก็ไม่ใช่จุดยืนของตน
“บอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ ผมเป็นตัวของตัวเอง อายุเยอะแล้ว ผมรู้ว่าสถาบันบางสถาบัน ท่านก็ Disrupt อยู่ พัฒนาการทางการเมืองของน้องๆ เป็นสิทธิเสรีภาพ ใครทำอะไรก็ทำไป แต่ใครทำอะไรต้องรับผิดชอบ การเมืองก็เหมือนอาหาร ใครชอบกินอะไรก็กินไป จะมาบอกว่าอยู่บริษัทเดียวกันแล้วชอบเหมือนกันไม่ได้” คารมกล่าว
เมื่อถูกถามถึงกรณี พรรคก้าวไกลจะยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112
“ผมไม่เซ็นครับ บอกผ่านสื่อเลยครับผมไม่เซ็น ไม่ทราบคนอื่นเซ็นหรือไม่ แต่ผมไม่เซ็นแล้วมาบังคับผมไม่ได้ด้วย ผมเคยงดออกเสียงในเรื่องกฎหมายโอนอัตรากำลังพล แต่เมื่อพรรคมีมติผมก็มีมารยาท ผมรู้กติกา ผมรู้ระดับของความรุนแรง ผมจะตอบคำถามอย่างไร ผมมาสาบานตน ผมอ่านรัฐธรรมนูญผมก็เข้าใจ แล้วผมมาเซ็นแก้มาตรา 112 ความคิดในทางกฎหมายผมก็มีความรู้อยู่บ้างว่ามุมมองอะไรอย่างไร แต่สรุปว่าผมไม่เซ็น” คารมกล่าว