สถิติการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ในภาคบริการจาก International Federation of Robotics (IFR) ทั่วโลกมีมากถึงร้อยละ 70 ในปี 2017 โตขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2016 โดย นายสุทธิศักดิ์ วิลานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เผยว่าการเติบโตหลักๆ มาจากภาคธุรกิจอย่าง โลจิสติกส์ โรงแรม โรงพยาบาล และภาคบริการอื่นๆ ที่มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“การเติบโตของหุ่นยนต์ในภาคบริการตอนนี้ถือว่าสูงขึ้นกว่าเดิมมาก ไม่เฉพาะในเรื่องของกระบวนการผลิตอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพ และการเพิ่มความแม่นยำในธุรกิจประเภทบริการ รวมถึงการทดแทนแรงงานคนในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย” นายสุทธิศักดิ์กล่าวถึงสถานการณ์ของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในปัจจุบัน
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด ยังกล่าวว่า ทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวในแง่ของการนำหุ่นยนต์มาใช้ในธุรกิจของตนเอง ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การเติบโตของหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติเป็นไปอย่างก้าวกระโดด
ทุกวันนี้หุ่นยนต์กระเถิบเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามาขึ้นโดยไม่รู้ตัว นายสุทธิศักดิ์ ยกตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน หรือภาคบริการอื่นๆ ก็จะหันหน้าเข้าสู่เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติมากขึ้น
“การประกาศ 10 S-Curve และ ไทยแลนด์ 4.0 คือ คือการจุดประกายว่าระบบหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติมีความสำคัญมากต่อภาคอุตสาหกรรม ภายในช่วง 5 – 10 ปีนี้ เป็นเวลาของการปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี แต่หลังจากนั้นผมเชื่อว่า เราจะกลายเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยี
เราอยากให้งานที่กำลังจะเกิดขึ้น (REX) เป็นแพลตฟอร์มที่จะมาทำความรู้จัก สร้างความตื่นตัวของการใช้ระบบหุ่นยนต์ในประเทศไทย และเป็นเวทีเพื่อสร้างแรงบันดาลใจต่อไป” นายสุทธิศักดิ์ทิ้งท้ายพร้อมบอกว่าต่อไปนี้คือโอกาสของประเทสไทยในการกระเถิบจากผู้นำเข้าให้กลายเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยี
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีกำลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยุคใหม่ ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กล่าวว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต
“เราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ มาทำให้อุตสาหกรรมไทยมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากล และก้าวกระโดดไปหาอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง หลังจากเราลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานไปเป็นจำนวน 1.7 ล้านล้านบาท ก็คาดหวังว่าจะมีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทส (FDI) เป็นมูลค่า 4 ล้านล้านบาท ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า”
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษจาก EEC ยังกล่าวว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์จะเกิดขึ้นได้แน่นอนเพราะเกี่ยวข้องโดยตรงในการทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าถูกลง และทำให้คุณภาพของสินค้าดีขึ้น
“เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นก้าวสำคัญของธุจกิจไทยที่จะเข้าสู่ศตวรรษหน้า อุตสาหกรรม 4.0 จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องข้อมูล ซึ่งมีพื้นฐานเป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และเทคโนโลยีอัตโนมัติ เมื่อนำมาผสมกับ IOT ก็จะทำให้ธุรกิจไทย สามารถดำเนินธุรกิจไปอย่างมีประสิทธิภาพได้” ดร.ชิต ทิ้งท้าย
ทั้งนี้ รี้ด เทรดเด็กซ์ คาดการณ์ว่า ASEAN Robomation Expo (rex) ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ ในงานแมนูแฟคเจอริ่ง เอ็กซ์โป 2020 ระหว่างวันที่ 24 -27 มิถุนายน 2020 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าทางด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และคาดว่าจะมีกระแสเงินสะพัดในกลุ่มอุตสาหกรรมผ่านงานแสดงสินค้าดังกล่าว ไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้าน