ไม่พบผลการค้นหา
ไม้เมือง เกินต้านพิษโควิด-19 ซ้อนเศรษฐกิจทรุด ประกาศปิดกิจการร้านอาหารที่เชียงใหม่ สุดเจ็บปวดตอนบอกเลิกจ้างพนักงาน เชื่อมีโอกาสที่จะกลับมาน้อยมาก ต่อให้สถานการณ์คลี่คลาย ก็ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูประเทศอีกนาน

ธีราพร ศรีกิจรัตน์ หรือ อ้อม ไม้เมือง และประเสริฐ ศรีกิจรัตน์ หรือ แม๊กซ์ ไม้เมือง ศิลปินล้านนา วงไม้เมือง ตัดสินใจปิดกิจการ ‘ร้านไม้เมือง’ ในโครงการมีโชคพลาซ่า ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้กิจการอยู่รอด มาตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว กระทั่งมาเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และการใช้ชีวิตทั่วทุกพื้นที่

อ้อม ไม้เมือง ให้สัมภาษณ์กับ ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์ ว่า ก่อนตัดสินใจปิดกิจการ เธอกับแม๊กซ์นำเงินเก็บจากการร้องเพลงมาลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารมาได้ประมาณ 3 ปี ธุรกิจช่วงแรกไปได้สวย มีลูกค้าเข้าร้านคึกคัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนเพลง นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด และต่างชาติ มานั่งกินดื่ม ชมการแสดงดนตรีสดแนวโฟล์คซองจำนวนมาก ทำให้มีกำไรนำมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนซื้อของเข้าร้าน จ่ายเงินเดือนพนักงาน และนักดนตรี รวม 10 คน ได้อย่างคล่องตัว

ต่อมาช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองผู้คนมีความระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น ธุรกิจเริ่มประสบปัญหา จำนวนลูกค้าตกลงไปมาก บรรยากาศในร้านจากที่เคยคึกคักกลายเป็นเงียบเหงา แต่ก็กัดฟันพยายามทำทุกทางเท่าที่ทำได้ เพื่อประคองให้อยู่รอด จนกระทั่งมาเจอวิกฤตโควิด-19 ซ้อนวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องพักกิจการตาม ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยิ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก ประสบภาวะขาดทุนเกินจะต้านไหว หลังจากถอนเงินเก็บทั้งชีวิตออกมาเยียวยาลูกจ้าง จ่ายค่าเช่าร้าน จนแทบหมดตัว จึงตัดสินใจปิดกิจการในที่สุด

ไม้เมือง.jpg

“เราสู้มาตั้งแต่ช่วงที่เศรษฐกิจทรุดแล้ว มีเงินเข้าร้านไม่มากแต่ก็อยู่ได้เลี้ยงลูกน้องได้ ยังพอเอาเงินที่ได้จากการร้องเพลงมาโปะได้ จนมาเจอโควิด-19 ระบาด ไม่ไหวแล้วจริงๆ อย่างที่บอกร้านไม้เมืองเป็นร้านแบบลูกค้ามานั่งกินดื่มฟังดนตรีสด ลูกค้าส่วนใหญ่เป็น แฟนเพลง นักท่องเที่ยวมาจากต่างบ้านต่างเมือง ตั้งใจมาฟังเรา 2 คน ร้องเพลงโดยเฉพาะ ปรับไปเป็นขายหน้าร้านไม่ได้ งานคอนเสิร์ตก็โดนยกเลิก และเลื่อนออกไป เมื่อไม่มีเงินเข้ามันก็ไปต่อไม่ได้  หลังจากพักกิจการไปครึ่งเดือนตามคำสั่งของรัฐต้องควักเนื้อมาจ่ายค่าเช่าให้เงินเดือนพนักงานจนจะหมดตัวแล้ว ยื้อไม่ไหวจริงๆ”

ศิลปินล้านนา ชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด เล่าความรู้สึกตอนที่บอกเลิกจ้างพนักงาน สุดเจ็บปวด เสียใจที่ไม่สามารถดูแลน้องๆ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานได้ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเข้าใจหัวอกเจ้าของธุรกิจที่ต้องจำใจดีดคนออก เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด อนาคตยังไม่มั่นใจว่าจะกลับมาเปิดร้านไม้เมืองอีกหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่า ต่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูประเทศอีกนาน  โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ทรุดมาต่อเนื่อง

ไม้เมือง.jpg

“มันเจ็บปวดนะที่ต้องบอกพนักงานว่าเลิกจ้างกันก่อน แต่ถ้ารับปากเขาแล้วถึงเวลาไม่มีเงินจ่ายให้มันก็เจ็บ พนักงานทุกคนก็เข้าใจ แต่เรารู้สึกเจ็บปวด รู้สึกสะเทือนใจ  ที่ผ่านมาเจอปัญหาเราก็ยังอยู่ได้ ยิ้ม หัวเราะ ด้วยกัน เวลาน้องๆ มีเรื่องไม่สบายใจก็มาปรับทุกข์กับเรา ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ ที่ผ่านมาเราฝ่าฟันปัญหาผ่านมาได้ทุกสถานการณ์  แต่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันแบกรับภาระไม่ไหวจริงๆ ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีลูกค้าก็หายไปเกินครึ่งแล้ว มาเจอโควิด-19อีกจบเลย งานคอนเสิร์ตก็ไม่มี ถ้าได้ไปร้องเพลงก็ยังพอมีรายได้เอามาอุดร้าน เอามาแบ่งน้องๆ ได้"

"เงินเก็บร้านไม่เหลือแล้ว เงินส่วนตัวจะพอใช้ถึงสิ้นเดือนนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ จากสภาพเศรษฐกิจที่ผ่านมาพอมาเจอวิกฤตอีกคือตาย เดือนนี้เลวร้ายที่สุดแล้วแบบเจอวิกฤตซ้อนวิกฤต ก็บอกน้องๆ ว่าตอนนี้แยกย้ายกันไปดูแลตัวเองก่อนนะ ถ้าเปิดร้านใหม่ค่อยกลับมาร่วมกันอีก แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกหรือไม่ โอกาสมีน้อยมาก เพราะต่อให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟูประเทศอีกหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องเศรฐกิจ ผู้คนจะออกมาเที่ยวใช้เงินตูมตามทันทีก็คงเป็นไปไม่ได้”

อ้อม ไม้เมือง กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ในสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดต่อเนื่อง ไม่ว่าใครย่อมได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ขอให้คุณพระคุ้มครองให้ทุกคนปลอดภัย ขอให้พวกเราชาวไทยมีกำลังใจผ่านพ้นวิกฤตรงนี้ไปให้ได้