ไม่พบผลการค้นหา
ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์แห่งราชวงศ์อังกฤษ เตรียมสร้างแบรนด์ 'Sussex Royal' หลังเล็งผ่อนบทบาทราชวงศ์ระดับสูง คาดอาจใช้ชีวิตในแคนาดาและสหราชอาณาจักรหลังจากนี้

การประกาศเตรียมถอนตัวจากตำแหน่งสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงของ เจ้าชายแฮร์รี และ เมเกน มาร์เคิล ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์แห่งราชวงศ์อังกฤษ ถือเป็นประเด็นใหญ่ที่ทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมาก เพราะประเด็นที่มีการระบุไว้ในแถลงการณ์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนักในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ว่าทั้งสองพระองค์จะเปลี่ยนผ่านเข้าไปสู่รูปแบบการใช้ชีวิตแบบ 'การทรงงานเพื่อเลี้ยงชีพเพื่อนำไปสู่การเป็นอิสระทางการเงินจากราชวงศ์' ซึ่งสร้างคำถามให้กับประชาชนตามมาว่าการทรงงานที่ว่านั้นคืออะไร

สำนักข่าว CNN รายงานเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้ว่า หนึ่งในวิธีการทรงงานที่ว่าคือ 'การสร้างแบรนด์' ของพระองค์เองขึ้นมา โดยการใช้ชื่อแบรนด์ว่า 'Sussex Royal' โดยการสร้างแบรนด์เชิงพาณิชย์ที่ว่านี้มีการเตรียมการมาก่อนแล้ว ซึ่ง CNN ระบุว่าทั้งสองพระองค์มีการยื่นเรื่องขอเครื่องหมายการค้ากับทางการของสหราชอาณาจักรในเดือน มิ.ย. 2019 ที่ผ่านมา 

แบรนด์ 'Sussex Royal' จะครอบคลุมถึงสินค้าต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าพิมพ์ลาย เสื้อผ้า การรณรงค์ โครงการระดมเงินทุนเพื่อการกุศล ไปจนถึงงานบริการด้านการศึกษา และบริการด้านสวัสดิการทางสังคม

AFP - เมแกน แฮร์รี รางวงศ์อังกฤษ

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของรัฐบาลอังกฤษยืนยันว่า เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนได้ทรงยื่นเรื่องขอเครื่องหมายการค้าภายใต้แบรนด์ Sussex Royal จริง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ปรากฎอยู่บนหน้าเว็บไซต์ของสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนธันว่าคม 2019 ที่ผ่านมา โดยนอกจากชื่อเครื่องหมายการค้า Sussex Royal แล้ว ก็จะมีชื่อขององกรการกุศลของทั้งสองพระองค์ด้วยภายใต้ชื่อ 'The Foundation of the Duke and Duchess of Sussex' ซึ่ง CNN ย้ำว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติแต่อย่างใด

ย้อนไปเมื่อปี 2007 หลังมีการจัดพิธีหมั้นหมายของทั้งสองพระองค์ พระราชวังเคนซิงตันได้ออกแถลงการณ์ว่า เมแกน มาร์เคิล จะยุติบทบาทในการขับเคลื่องภารกิจเพื่อการกุศลส่วนตัว เพื่อเดินหน้าทรงงานและให้การสนับสนุนโครงการการกุศลของราชวงศ์ หรือ Royal Foundation เต็มตัว ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เจ้าชายแฮร์รีและเจ้าชายวิลเลียมส์ทรงก่อตั้งขึ้นในปี 2009 

อย่างไรก็ตาม เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนได้ประกาศแยกตัวออกมาจาก Royal Foundation เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นบุคคลใกล้ชิดระบุว่านี่คือการตัดสินใจร่วมกันระหว่าง 4 พระองค์ที่ดูแลมูลนิธินี้โดยตรง คือ เจ้าชายแฮร์รี เจ้าชายวิลเลียมส์ เมแกนมาร์เคิล และเคท มิเดลตัน 

AFP - เมแกน แฮร์รี รางวงศ์อังกฤษ

ปัจจุบัน รายได้ 5 เปอร์เซ็นต์ของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์นั้นเป็นส่วนแบ่งจากเงินปีส่วนพระมหากษัตริย์ หรือ Sovereign Grant จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และรายได้อีก 95 เปอร์เซ็นต์นั้นมาจากดัชชีแห่งคอร์นวอลล์ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์พระราชโอรสพระองค์ใหญ่และพระรัชทายาทในสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้าชายแฮร์รี

ที่ผ่านมาตั้งแต่ทั้งสองพระองค์เริ่มมีข่าวคบหาดูใจกันก็ตกเป็นเป้าการโจมตีของสื่อแทบลอยด์ในอังกฤษมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลายครั้งเป็นการโจมตีในเรื่องของการใช้งบประมาณและไลฟ์สไตล์ของทั้งสองพระองค์ที่มักจะเกี่ยวเนื่องกับประเด็นการแหวกขนบประเพณีของสหราชอาณาจักร จนหลายครั้งถลำลึกถึงการเหยียดเชื้อชาติของตัวดัชเชสเอง จนสมาชิกรัฐสภาหญิงของอังกฤษ 72 คนถึงขั้นที่ต้องเขียนจดหมายประณามการกระทำของสื่อแทบลอยด์อังกฤษที่ล้าสมัยสเมือนกับยังอยู่ในยุคล่าอาณานิคม

CNN Business มองว่าการประกาศถอนตัวจากตำแหน่งสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงในครั้งนี้จะส่งผลให้ทั้งคู่สามารถลดบทบาทการถูกพาดพิงถึงในสื่อเหล่านี้ลงได้ หรือไม่ก็อาจได้รับกระแสตีกลับจากสังคม เพราะความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นที่สนใจหลายประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมีแต่จะสร้างประเด็นใหม่ๆ ให้สื่อและประชาชนสนใจในก้าวต่อไปของทั้งคู่มากขึ้น

ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของทั้งสองพระองค์ระบุเพียงว่าหลังจากนี้จะมีการใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษและอเมริกาเหนือ ซึ่งคำว่า 'อเมริกาเหนือ' นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเป็นประเทศใด แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าน่าจะเป็น 'แคนาดา' เพราะเมแกนเองเคยใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองโตรอนโตถึง 7 ปีเต็ม คุ้นเคยและมีพระสหายมากมายที่นั่น และแคนาดาก็เป็นประเทศเครือจักรภพอังกฤษ 

AFP - เมแกน แฮร์รี รางวงศ์อังกฤษ

อีกทั้ง Vanity Fair ยังระบุด้วยว่า ทั้งสองพระองค์ได้เดินทางไปแสดงความขอบคุณ เจนีส ชาร์เร็ทท์ ผู้แทนทางการทูตของแคนาดาประจำกรุงลอนดอน หลังจากที่ทั้งสองพระองค์ทรงได้รับการดูแลอย่างดี ระหว่างการเยือนแคนาดาช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา ที่ทั้งสองพระองค์ก็ได้เลือกที่จะไปใช้เวลาเฉลิมฉลองเทศกาลขอบคุณพระเจ้า เทศกาลคริสต์มาส และช่วงปีใหม่