จากกรณีปัจจุบันเกิดโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาดในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้ประเด็นของนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบยังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลเท่าที่ควร ล่าสุด น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานสหภาพนักเรียนฯ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีความเดือดร้อนในเรื่องของค่าเทอมที่มีโรคโควิด-19
อีกทั้ง ศูนย์ท่าพระจันทร์อยู่บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ แต่มาตรการของมหาวิทยาลัยดำเนินการล่าช้า และมองว่านักการเมืองเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญ ถ้ามีความพร้อมทางทุนทรัพย์อาจจะช่วยเหลือนักศึกษาเช่นกัน ถือเป็นกระบอกเสียง และมีเครือข่ายที่มากกว่า
น.ส.จุฑาทิพย์ เสนอว่า รัฐบาลควรจะช่วยเหลือทางด้านการศึกษาอย่างถ้วนหน้าหรือเรียนฟรี ซึ่งถือว่าควรเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานของประชาชนอยู่แล้ว และทุกคนควรได้รับการเยียวยาและการเข้าถึงการศึกษาอย่างถ้วนหน้า
ด้าน นายชรินรัตน์ พันธุ์พิกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เห็นว่า นักการเมืองควรเข้าไปสอบถามปัญหาของนักศึกษา เพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่อสภาหรือรัฐบาล และยังสามารถใช้เป็นแนวทางนี้ในการแก้ปัญหาหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ส่วนเรื่องการบริจาคของใช้ที่จำเป็นหรือเงินให้ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่คงจะไม่สามารถให้ได้ทุกคน ทางที่ดีควรนำปัญหาที่สอบถามจากนักศึกษาไปเสนอต่อทางมหาวิทยาลัยด้วย เพราะถ้าเป็น ส.ส. เข้ามาช่วยเจรจายื่นข้อเสนอให้มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับปัญหาของนักศึกษา คงจะทำให้มหาวิทยาลัยตระหนักมากขึ้น
เช่นเดียวกับ นายนภควัฒน์ วันชัย วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น กล่าวด้วยว่า นักศึกษานั้นได้รับผลกระทบเนื่องจากมาตรการรัฐไม่ทั่วถึง สถานศึกษาที่ตนสังกัดไม่ได้ประกาศมาตรการอะไร นอกจากแจ้งแต่นักศึกษาที่ออกฝึกงาน ให้สถานประกอบการนั้น ดูเป็น กรณีไปว่า จะพักหรือย้าย
อีกทั้งส่วนตัวเองได้รับผลกระทบคือ ออกจากบ้านไปไหนมาไหนไม่ได้ และธุรกิจที่บ้านไม่ค่อยมีลูกค้าเพราะโดนสั่งปิด
สำหรับข้อเสนอต่อรัฐบาลนั้น รัฐควรจะเล็งเห็นความสำคัญของนักเรียนนักศึกษาให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องหอพัก ควรให้เจ้าของหอพักลดค่าหอให้กับผู้พัก อาจจะลดเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์ ของค่าหอจะช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าของให้และคนเช่าไปด้วย และการเรียนออนไลน์นั้นก็ควรทำซิมโทรศัพท์ที่แจกฟรีให้ยั่งยืน เพราะในอนาคตก็ต้องใช้อยู่ดี
ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การช่วยเหลือ นักศึกษา ได้ประสานกับแกนนำนักศึกษาในการช่วยทำข้อมูลของนักศึกษา ที่ลงทะเบียนต้องการได้รับการแบ่งเบา ซึ่งให้ได้เป็นจำนวนคนละไม่มาก แต่เป็นการให้กำลังใจกันไป โดยให้เงินช่วยเหลือเป็นค่าอาหารกล่อง หรือแล้วแต่นักศึกษาอาจจะนำไปสมทบค่าน้ำ/ค่าไฟ ในหอพัก ของแต่ละคน โดยสนับสนุนวันละ 100 คน คนละ 30 บาท หากนักศึกษากรอกข้อมูลมาเรื่องความเดือดร้อนที่จำเป็นมากๆ จะไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไปตามกรอบกฏหมายที่ส.ส.สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ
น.ส.ทัศนีย์ ยังกล่าวด้วยว่า มหาวิทยาลัยไม่ควรจะปิดกั้นไม่ให้นักการเมืองทั้งในระดับชาติหรือในท้องถิ่นได้มีโอกาสเข้าไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับนักศึกษา ทั้งในส่วนของงานเสวนาทางวิชาการ หรือ การแสดงออกทางการเมืองของนักศึกษา มหาวิทยาลัยไม่ควรใช้ข้ออ้างในเรื่อง "ความเป็นกลาง" มาจำกัดการเคลื่อนไหวทางความคิดทางการเมืองของนักศึกษา แต่มหาวิทยาลัยควรระลึกให้ดีว่า ควรให้พื้นที่เสรีภาพทางความคิดแก่นักศึกษาและบุคลากร ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ในทางวิชาการ และส่งเสียงข้อเรียกร้องเพื่อสังคมได้ โดยนักศึกษาและบุคลากรอาจเชิญนักการเมืองมาเสวนาได้ ไม่มีการขัดขวางโดยใช้ข้ออ้างเรื่องความเป็นกลางอย่างที่ผ่านมา หรือขอความช่วยเหลือในด้านกิจกรรมจากนักการเมืองได้ พร้อมฝากไปถึงรัฐบาล ในการเยียวยาช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาในเรื่องเงินอุดหนุนให้เด็กนักเรียน นักศึกษาที่จำเป็นโดยด่วน เพราะต้องเรียนทาง ออนไลน์มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เพราะทุกคนไม่ได้มีอุปกรณ์ในการเรียนเหมือนกันทุกคน และควรมีมาตรการอุดหนุนค่าเทอม ค่าหน่วยกิตแก่นักเรียนนักศึกษา
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ให้พิจารณาคืนค่าเทอมในสัดส่วนที่เหมาะสมของแต่ละมหาวิทยาลัย หรือในอัตราขั้นต่ำ 20 เปอร์เซ็นต์ หรือเกลี่ยงบประมาณอื่นๆ เพื่อเยียวยานักศึกษาทั่วประเทศทันที
โดยมหาวิทยาลัยต่างๆ ควรพิจารณา ปรับลดค่าเทอมในเทอมต่อไป เนื่องจากการปิดมหาวิทยาลัยในช่วงนี้ ทำให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งสามารถประหยัดงบประมาณในด้านสาธารณูปโภคได้เป็นจำนวนมาก และยังเป็นการแบ่งเบาภาระที่นิสิตนักศึกษาต้องแบกรับในช่วงวิกฤิตนี้อีกด้วย
นอกจากนี้นักการเมืองท้องถิ่นควรมีส่วนร่วมในการสร้างความเข้าใจอย่างแท้จริงให้กับนักศึกษาที่จะมีต่อชุมชนนั้น ๆ อย่างถูกต้องได้ เช่นอาจจะประสานและส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยผ่านนักศึกษาและบุคลากรของตนไปมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนโดยแวดล้อมและไม่ใช่การนำพาเพื่อให้บอกได้ว่ามีความสัมพันธ์ต่อกันแต่ยังต้องเข้าใจกันและกันได้อย่างถ่องแท้ ซึ่งจะนำไปสู่การหนุนเสริมกันทำกิจกรรมทางการเมืองได้
"ท้ายนี้ในฐานะพรรคก้าวไกลเราเป็นพรรคที่สืบทอดเจตนารมณ์และอุดมการณ์ต่อมาจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะฝ่ายค้านพวกเราพยายามตรวจสอบการใช้งบประมาณและอำนาจของรัฐบาลอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ ถึงแม้เราจะไม่ใช่รัฐบาลแต่ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลไม่เคยทิ้งทั้งเรื่องไฟป่า ภัยแล้ง ปัญหาฝุ่น ปัญหาปากท้อง ปัญหาการศึกษาและอีกหลากหลายเรื่อง ถึงแม้กำลังและอำนาจของพวกเรามีอย่างจำกัด แต่เราก็จะทำอย่างเต็มที่ต่อไปในฐานะที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน" นายรังสิมันต์ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :