ไม่พบผลการค้นหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน ออกมาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง-เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดเวลาชำระหนี้ ลดภาระผ่อนค่างวดบัตรเครดิต นานสุด 2 ปี หวังพยุงสถานการณ์เศรษฐกิจรับมือภัยแล้ง-โควิด-เศรษฐกิจซบเซา

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีแนวโน้มลุกลามและส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้างต่อธุรกิจและประชาชนทั่วไป ธปท. ได้ติดตามสถานการณ์และร่วมกับสถาบันการเงิน กำหนดมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ลูกหนี้ธุรกิจทุกประเภทและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวในเชิงรุก

โดยเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและเร่งปรับโครงสร้างหนี้ อาทิ ให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม พักชำระหนี้เป็นการชั่วคราว ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตได้ต่ำกว่าร้อยละ 10 เพิ่มวงเงินชั่วคราวสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้ โดยกำหนดเป็นมาตรการชั่วคราวระยะเวลา 2 ปี ( 1 ม.ค.2563-31 ธ.ค.2564) เพื่อให้สถาบันการเงินช่วยเหลือด้านสภาพคล่องและปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที ธปท. จึงได้ปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดชั้นและการกันเงินสำรอง รวมทั้งการรายงานข้อมูลเครดิตของลูกหนี้เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

ธปท. คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลูกหนี้จะได้รับประโยชน์จากการดำเนินการตามมาตรการข้างต้น และส่งผลให้ลูกหนี้ที่มีศักยภาพสามารถพลิกฟื้นธุรกิจได้ทันท่วงที ทั้งนี้สามารถติดตามมาตรการการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ของแต่ละสถาบันการเงินผ่านเว็บไซต์ของสถาบันการเงินนั้นๆ และ ธปท.

ธ.ไทยเครดิตฯ พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 24 เดือน

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย เปิดเผยว่า ธนาคารออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภัยแล้ง โดยพักชำระหนี้เงินต้น (Grace Period) พร้อมขยายเวลาการผ่อนชำระ สูงสุด 24 เดือน (โดยพิจารณาเป็นรายกรณี) เพื่อช่วยแบ่งเบาการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับศักยภาพของลูกค้าในปัจจุบัน พร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เงินกู้ช่วยเหลือ SMEs สร้างไทย วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 8 ปี ค้ำประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2203 6500 กด 1 สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย กด 2 สำหรับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อนาโนและไมโครไฟแนนซ์ ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 – 17.00 น. ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2563 ถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2563 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง


กรุงศรีพักชำระหนี้เงินต้น -ลดวงเงินผ่อนชำระค่างวด

นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทในเครือ กรุงศรี กรุ๊ป ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อย และลูกค้าบุคคล เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบด้วย - ลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล : พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน, ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด - ลูกค้าสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย : พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน, ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด (แล้วแต่กรณี) - ลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ : พักชำระหนี้ สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน, ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด

ส่วนกรณีลูกค้ากรุงศรี คอนซูมเมอร์ (สำหรับผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19) พักชำระหนี้ สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 5 และสำหรับลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 3 หรือปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนเป็นรายกรณี


แบงก์กรุงเทพพักชำระเงินต้นนานสุด 12 เดือน-ยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัดชำระ

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้าผู้ประกอบการในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่อง ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือทางการเงินสำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจและลูกค้าบุคคล ทั้งการปรับและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ การช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่องกิจการระยะสั้น และการสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติม

กรณีลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารมีการพิจารณาปรับและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ โดยตั้งพักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การยกเว้นดอกเบี้ยผิดนัด และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ พร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีตามโครงการ "สินเชื่อบัวหลวง SMEs บรรเทาทุกข์จากเชื้อไวรัสโคโรนา" เพื่อช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อยที่ธุรกิจได้รับผลกระทบ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 1 ต่อปี หรือพิจารณาความเหมาะสมแต่ละกรณี สำหรับลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ธนาคารพิจารณาสินเชื่อเพิ่มให้แก่ลูกค้าตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี

ด้านลูกค้าสินเชื่อบุคคล ธนาคารช่วยเหลือในการปรับเงื่อนไขการชำระหนี้สินเชื่อที่มีกับธนาคาร โดยพิจารณาตามความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย มีทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติสูงสุดร้อยละ 50 ลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกินร้อยละ 10 ยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ ซึ่งเกิดจากสถานการณ์การเผยแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019


ออมสินลดดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 20 นานสุด 1 ปี

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารได้ออกโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ให้สินเชื่อเพิ่มวงเงินสูงสุด 50,000 บาท ผ่อนชำระคืนสูงสุด 5 ปี และปลอดชำระหนี้ 6 งวดแรก แก่ผู้ประกอบการ ผู้มีอาชีพอิสระ พนักงานลูกจ้างที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งทางตรงและทางอ้อม ยื่นคำขอได้ภายใน 30 ก.ย. 2563 พร้อมกันนี้ ลดดอกเบี้ยให้สูงสุดร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยจ่าย ระยะเวลา 1 ปี พักเงินต้นไม่เกิน 2 ปี และขยายเวลาชำระหนี้ ยื่นคำขอได้ภายใน 31 ธ.ค. 2563

ทั้งนี้ คุณสมบัติลูกค้าที่สามารถใช้มาตรการนี้ได้ ต้องได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตลอดจนผู้ผลิตสินค้า ผู้ประกอบการขายส่ง เป็นต้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :