พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกลุ่มต่างๆที่จะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภา รวมถึงกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ที่กลุ่มนักศึกษาจะจัดขึ้น วันที่ 12 ม.ค. 2563 ว่า ให้พิจารณาดูว่าสมควรหรือไม่ เพราะวันนี้ สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร ดังนั้นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ควรหรือไม่ สังคมต้องช่วยพิจารณาเอาเอง ซึ่งการวิ่งไล่ลุงก็ว่ากันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากกิจกรรมวิ่งไล่ลุง แล้ว ยังมีกลุ่มที่สนับสนุนจัดกิจกรรม วิ่งตามลุง ในวัน และ เวลาเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ขอตอบ แต่หัวเราะในลำคอและพูดเพียงว่า วิ่งให้ทันก็แล้วกัน ก่อนที่จะเดินออกมาจากตึกบัญชาการ และคว้าไมโครโฟนช่อง 3 ที่อยู่ระหว่างสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาพูดว่า ขออนุญาตกราบเรียนถาม พี่ผม ก่อนที่จะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งลักษณะการคว้าไมโครโฟนของ นายกรัฐมนตรี เป็นเหมือนการเลียนแบบ นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่แย่งไมโครโฟน จาก อธิบดีกรมป่าไม้ ระหว่างแถลงข่าว
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการตัดกิจกรรมแคมเปญ วิ่งไล่ลุงว่า ต้องดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ หากไม่ผิดกฎหมายก็สามารถทำได้ ซึ่งเมื่อมีการถามพล.อ.ประวิตร ว่าลุงจะไปวิ่งที่ไหน พล.อ.ประวิตรได้ตอบกลับมาด้วยเสียงหัวเราะว่า "ผมวิ่ง เดินยังไม่ได้เลย"
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงการทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นวันนี้ (3 ธ.ค.) ว่า ที่ผ่านมาราบรื่นอยู่แล้ว แต่ไม่ได้อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศในช่วงเย็นวันนี้ ส่วนเรื่องการโหวตของพรรคประชาธิปัตย์ 6 เสียงในกรณีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญศึกษาผลกระทบของมาตรา 44 นั้น ก็ได้มีการพูดคุยกันแล้วซึ่งยังได้พูดถึงเรื่องการเข้าประชุมสภาที่จำนวนองค์ประชุมอาจไม่ครบจนทำให้เปิดประชุมไม่ได้นั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวว่า เท่าที่นับดูแล้วก็คือว่าพอดี
ส่วนกรณีที่มีการรับเลี้ยง ส.ส จากพรรคเพื่อไทย 20 คนเพื่อช่วยโหวตวาระต่างๆให้กับพรรคพลังประชารัฐนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดและยังไม่รู้เรื่องดังกล่าวด้วย