นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการประชุม คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมรับทราบผลการปฏิบัติงานจากการที่คณะกรรมการบริหารพรรคมอบให้ไปทำหน้าที่ในการร่วมรัฐบาล ซึ่งหลายเรื่องมีความคืบหน้าสามารถดำเนินนโยบายได้สัมฤทธิ์ผล โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตรทั้ง 5 ชนิด คือ ยางพารา ข้าว ปาล์ม มันสำปะหลัง และข้าวโพด ที่ขับเคลื่อนโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะะรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรครับทราบและแสดงความพอใจเป็นอย่างยิ่งที่นโยบายประกันรายได้ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคที่ได้ใช้หาเสียง ทั้ง นายจุรินทร์และ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้นำไปขับเคลื่อนจนเกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ อันเป็นนโยบายที่มีส่วนสำคัญมากในการช่วยเหลือค่าครองชีพและเป็นการเติมรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในช่วงระยะเวลานับจากวันที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 25 ก.ค. 2562 ถือว่าได้ทำสำเร็จเสร็จสิ้นและเป็นจริงภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 เดือน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการย้ำในข้อเท็จจริงว่าการเข้าไปทำหน้าที่ด้วยการได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนั้น สามารถ “ทำได้ไวและทำได้จริง”
นายราเมศ ย้ำว่า ในปีหน้านี้นอกจากการเดินหน้าเพื่อจ่ายเงินส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ตามงวดที่กำหนดไว้แล้ว ก็จะมีมาตรการเสริมด้านต่าง ๆ เพื่อผลักดันราคาสินค้าเกษตรทั้ง 5 ชนิดนี้ให้เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน และที่เห็นชัดที่สุดก็คือขณะนี้มาตรการเสริมในเรื่องของปาล์มมีปรับตัวราคาสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการติดตั้งมิเตอร์ถังวัดเก็บน้ำมันปาล์ม มาตรการป้องกันการลักลอบสวมสิทธิ์ มาตรการส่งเสริมการใช้ บี 10 ภาคบังคับและบี 20 เป็นทางเลือก มาตรการเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้นและมีความยั่งยืนให้กับพี่น้องเกษตรกร สำหรับสินค้าเกษตรตัวอื่นๆ รัฐบาลจะได้มีนโยบายและมาตรการอื่นในการช่วยเหลือเกษตรกรแต่ละประเภทอย่างเหมาะสมต่อไป