ไม่พบผลการค้นหา
แบงก์ชาติแจงดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน เม.ย. ขาดดุลกว่า 22,000 ล้านบาท และหากไม่รวมทองคำ ขาดดุลกว่า 97,000 ล้านบาท สูงที่สุดในรอบ 20 ปี เหตุราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงมากจากการปิดประเทศ ชี้แนวโน้มดุลบัญชีเดินสะพัดระยะถัดไปจะเกินดุลลดลงต่อเนื่องจากเดิมเกินดุลเดือนละ 97,000-125,000 ล้านบาทมาหลายปี

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวถึงตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นผลรวมสุทธิของดุลการค้า ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนสุทธิ ประจำเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ขาดดุล 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 22,000 ล้านบาท นั้น หากไม่รวมตัวแปรเรื่องทองคำ ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะขาดดุลสูงถึง 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือสูงถึง 97,000 ล้านบาท นั้น

ขอชี้แจงว่าเป็นการขาดดุลที่สูงที่สุดในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา โดยในระยะถัดไป ธปท.คาดว่าราคาน้ำมันที่อาจปรับสูงขึ้นและข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากการปิดประเทศจะทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงต่อเนื่อง

"ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเดือนในช่วงที่เหลือของปีจะเข้าใกล้สมดุลมากขึ้น จนกว่าสถานการณ์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัว ซึ่งลดลงจากที่เคยเกินดุลถึงประมาณ 3,000 - 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือ 97,000-125,000 ล้านบาท ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา" นายทิตนันทิ์ กล่าว

ในระยะถัดไป ธปท.ชี้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะยังมีความไม่แน่นอนสูงภายใต้สภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลกในปัจจุบัน และมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ โดยการประชุม กนง.ครั้งก่อน คณะกรรมการฯ มีความกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นและอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้ติดตามและดูแลสถานการณ์ในตลาดการเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด ซึ่งคณะกรรมการฯ จะเผยแพร่ประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และดุลบัญชีเดินสะพัดใหม่ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 24 มิ.ย. 2563

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :