ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้นายสุริยะ อรุณรุ่ง พร้อมทีมทนาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในข้อหาการกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2)ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ด้วยการกระจายภาพ กระจายเสียง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายอัจฉริยะ มีพฤติกรรมนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านเฟซบุ๊ก ของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และเผยแพร่ข้อความดังกล่าวให้แพร่หลายสู่ประชาชน ซึ่งข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือน ยุยง ปลุกปั่น ใส่ความ ฉวยโอกาส สร้างกระแสด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ โดยมีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือของนายจุรินทร์ อันเป็นการนำเอาความเท็จมาใส่ความนายจุรินทร์ต่อสาธารณะ ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งส่วนตัวและการบริหารราชการแผ่นดิน
การกระทำดังกล่าว จึงเข้าข่ายความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา โดยทีมกฎหมายได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ รวมทั้งสิ้น 5 กรรม ต่างวาระกัน เพราะนายอัจฉริยะ ได้ใส่ความนายจุรินทร์ ด้วยการไลฟ์สดใส่ร้ายนายจุรินทร์ ถึง 5 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นธรรมต่อนายจุรินทร์และการบริหารราชการแผ่นดินของนายจุรินทร์
“จุรินทร์” ยันพร้อมรับการตรวจสอบ แต่กรณีนี้เข้าข่ายใส่ความชัดเจน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าตนเป็นผู้หนึ่งที่สนับสนุนให้มีการตรวจสอบในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้มีกระบวนการตรวจสอบในเรื่องหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะโดยผู้ตรวจการแผ่นดิน พนักงานสอบสวนหรือตำรวจซึ่งรวมทั้งในส่วนของกรรมาธิการของสภาฯ มั่นใจว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้นจึงขอเรียนว่าเราสนับสนุนให้มีกระบวนการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ปรากฏต่อสังคมว่าเป็นอย่างไร
“แต่สำหรับกรณีที่ต้องส่งทีมทนายไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะก็เพราะว่าผมและฝ่ายกฎหมายได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยลำดับ พบความจริงว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่ไม่เป็นการตรวจสอบในลักษณะปกติ แต่เป็นลักษณะของการใส่ความ และมีการไลฟ์สดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผมและการปฎิบัติหน้าที่ของผม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีซึ่งการดำเนินคดีทั้งหมดจะมีอยู่ด้วยกัน 5 กรรม เพราะว่ามีการไลฟ์สด 5 ครั้ง ซึ่งรายละเอียดขอให้เป็นหน้าที่ของทีมกฎหมายและพนักงานสอบสวนที่จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไปทั้งในส่วนของกรณีการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ และในส่วนของการใส่ความทำให้ได้รับความเสียหาย" นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอเรียนว่าถ้าเป็นกระบวนการตรวจสอบที่สุจริตนั้นตนไม่มีข้อขัดข้องและยินดีที่จะสนับสนุนและพร้อมที่จะร่วมมือชี้แจงทำความเข้าใจและพร้อมที่จะรับการตรวจสอบเพราะเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ทำงานการเมืองมาเป็นผู้แทนราษฎรครั้งแรกตั้งแต่อายุ 29-30 ปี เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกตั้งแต่อายุ 36 ปีและปฎิบัติภารกิจในฐานะรัฐมนตรีอย่างน้อย 4 รัฐบาลมาหลายกระทรวง ไม่เคยมีเรื่องทุจริต และพร้อมที่จะรับการตรวจสอบเสมอ แต่กรณีนี้เข้าข่ายการใส่ความชัดเจน จึงจำเป็นที่จะต้องใช้สิทธิ์แสวงหาความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมจากการใส่ความและทำให้เกิดความเสียหายต่อเกียรติยศชื่อเสียงและการปฏิบัติภารกิจของตน และเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :