ไม่พบผลการค้นหา
Google เตรียมยกระดับความเข้มงวดในการซื้อโฆษณาทางการเมือง ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานซื้อโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมายเพื่อผลลัพธ์ทางการเมืองอีกต่อไป

สำนักข่าว BBC รายงานว่า ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจิ้นรายใหญ่ของโลกอย่างกูเกิลเตรียมปรับมาตรการครั้งใหญ่ด้านการอนุญาตให้มีการซื้อโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงทางการเมือง โดยจะมีการ ยกระดับความเข้มงวดที่มากขึ้นเพื่อความเป็นกลางและเป็นธรรม 

ต่อจากนี้ไปบรรดาทีมงานหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ จะไม่สามารถแมตช์คลังข้อมูลส่วนตัวของประชาชนที่พรรคการเมืองมีอยู่ เข้ากับข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานในฐานข้อมูลของกูเกิลได้อีกต่อไป ซึ่งนั่นรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของแพลตฟอร์มการค้นหาใน Google Search และ YouTube ด้วย โดยมาตรการใหม่นี้จะเริ่มต้นบังคับใช้ในอังกฤษเป็นที่แรกภายใน 1 สัปดาห์ ก่อนจะขยายวงกว้างไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก

อย่างไรก็ตามแม้จะมีการแบนไม่ให้ผู้ซื้อโฆษณาทางการเมืองสามารถยิงโฆษณาแบบเจาะจงโดยอิงตามข้อมูลด้านแนวโน้มทางการเมืองของผู้ใช้งานได้ แต่ผู้ซื้อโฆษณายังคงสามารถยิงโฆษณาด้วยการอ้างอิงข้อมูลส่วนตัวประเภท ที่อยู่ อายุ และ เพศ ของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มของกูเกิลได้ตามเดิม โดยกูเกิลย้ำว่าจะเดินหน้าจัดการกับเนื้อหาในโฆษณาทางการเมืองที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคม ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวทางของเฟซบุ๊กที่ยังคงเดินหน้าอนุญาตให้มีการซื้อโฆษณาทางการเมืองได้ตามปกติ

กูเกิล

ฐานข้อมูลผู้ใช้งานกูเกิลถูกนำไปใช้อย่างไร ?

BBC อธิบายว่า ระบบของกูเกิลสามารถสร้างสมมติฐานขึ้นมาได้ว่าผู้ใช้งานแต่ละบุคคลมีความโน้มเอียงทางการเมืองไปทางฝ่ายซ้ายหรือขวาได้ จากการประเมินผลของการสืบค้นข้อมูลของบุคคลนั้นบนแพลตฟอร์มของกูเกิล หากผู้ใช้งานคนหนึ่งคนใดเข้าสืบค้นข้อมูลของฝ่ายการเมืองใดบ่อยครั้งอย่างเห็นได้ชัด ก็เป็นไปได้ว่าบุคคลนั้นจะมีความโน้มเอียงไปที่ฝ่ายการเมืองฝ่ายนั้น

ซึ่งกลไกนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้บรรดาทีมหาเสียงของพรรคการเมืองนำข้อมูลดังกล่าวจากกูเกิลไปใช้ในการยิงโฆษณาทางการเมืองไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเจาะจง โดยวิธีนี้อนุญาตให้ทำได้ในพื้นที่ของสหรัฐฯ มาโดยตลอด ขณะที่บางประเทศสามารถที่จะอัปโหลดรายชื่อและข้อมูลเชิงลึกของสมาชิกพรรคการเมืองลงไปในกูเกิลเพื่อนำไปจับกับข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานกูเกิลได้ด้วย ซึ่งทำให้การยิงโฆษณานั้นมีประสิทธิภาพมาก แต่ทั้งสองวิธีข้างต้นจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไปหลังจากมาตรการใหม่ของกูเกิลมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

กูเกิล - เอเอฟพี - AFP

อย่างไรก็ตาม กูเกิลชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ต้องใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้มาตรการนี้ในอังกฤษเป็นที่แรกภายใน 1 สัปดาห์ต่อจากนี้ ก่อนจะบังคับใช้ครอบคลุมทั้งสหภาพยุโรปภายในสิ้นปี 2019 และจะขยายวงกว้างไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เริ่มต้นในวันที่ 6 ม.ค. 2020

ทั้งนี้ กูเกิลทำรายได้จากการขายโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่นในปี 2018 ทีมหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ ใช้เงินไปกับการซื้อโฆษณาทางการเมืองเพียง 128 ล้านดอลลาร์เท่านั้น คิดเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดของกูเกิลในปี 2018 ซึ่งอยู่ที่ 116,000 ล้านดอลลาร์ โดยตั้งแต่เดือนพ.ค. 2018 ถึงปัจจุบันทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้จ่ายเงินในส่วนนี้มากที่สุดราว 8.5 ล้านดอลลาร์


ข่าวที่เกี่ยวข้อง;