‘มิยาสึ’ เมืองตากอากาศชายทะเลของคนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต บริเวณทะเลที่เรียกว่าอ่าวมิยาสึ มี ‘อามาโนะฮาชิดาเทะ’ สันทรายธรรมชาติที่กั้นระหว่างอ่าว ทำให้เกิดเป็นวิวธรรมชาติที่สวยงามติด 1 ใน 3 ของวิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
‘คุณวาตานาเบ้’ หรือ ‘วาตานาเบ้ซัง’ ผู้เปิดร้านอาหารไทยในมิยาสึกล่าวว่า มิยาสึยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อย เมื่อเทียบกับสัดส่วนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และส่วนใหญ่เป็นคนจีน ไต้หวัน และฮ่องกง
นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว มิยาสึยังขึ้นชื่อในเรื่องของการทำประมง เนื่องจากเป็นเมืองท่าเพียงแห่งเดียวของเกียวโต และเป็นที่เดียวที่มีการเพาะเลี้ยงหอย 'โทริไก' ซึ่งเป็นอาหารทะเลขึ้นชื่อ
คนท้องถิ่นที่นี้บอกว่า สัตว์ทะเล จำพวกปลา หอย ปูในอ่าวมิยาสึนั้นจะตัวใหญ่และมีรสชาติที่อร่อยกว่าสัตว์น้ำที่เติบโตในทะเลเปิด
ไม่เพียงแต่อาหารทะเลเท่านั้นที่เป็นของขึ้นชื่อของมิยาสึ แต่อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นี่ก็เป็นที่เลื่องลือเช่นกัน ในมิยาสึเราจะพบทั้งไร่องุ่นและโรงงานผลิตไวน์ รวมไปถึงท้องนาที่คนท้องถิ่นทำนากันริมเชิงเขาและที่ราบลุ่มต่างๆ ในเมือง เพราะข้าวที่นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นพันธุ์ที่อร่อยติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น
เมื่อนำข้าวพันธุ์ท้องถิ่นของมิยาสึไปผ่านกระบวนการหมักบ่มและกลั่น ก็จะกลายเป็น 'เหล้าสาเก' ชั้นดีมีชื่อเสียง ถึงขั้นได้รับคัดเลือกไปเสิร์ฟให้กับผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุม G20 ที่เมืองโอซะกะ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วย
ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศ แน่นอนว่าในมิยาสึต้องมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ การแคมปิง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นมักจะพาครอบครัวและเพื่อนฝูงมาท่องเที่ยวกันในวันหยุด
ราคาค่าใช้จ่ายของการแคมปิงนั้นอยู่ที่ 48,000 เยน ต่อเต็นท์หนึ่งหลังที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากโรงแรมทั่วไป และสามารถเข้าพักได้ทั้งหมด 4 คน รวมถึงมีเตาบาร์บีคิวให้ผู้เข้าพักสามารถซื้ออาหารทะเลสดๆ มาปรุงกันเองได้อีกด้วย
‘อ่าวมิยาสึ’ ขึ้นชื่อว่าเป็นอ่าวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น หากมามิยาสึแล้วควรออกไปล่องเรือเพื่อชมความงามของทิวทัศน์รอบๆ บริเวณที่เรียกว่า ‘อามาโนะฮาชิดาเทะ’ สันทรายธรรมชาติที่ผ่ากลางอ่าว แต่เชื่อมแผ่นดินสองฝั่งของเมืองเข้าด้วยกัน โดยนักท่องเที่ยวที่ไม่นิยมล่องเรือก็สามารถขี่จักรยานข้ามไปมาได้อีกด้วย
เพราะเป็นเมืองท่าและเมืองที่ทำประมงแห่งเดียวของเกียวโต จึงทำให้มิยาสึ เป็นหมุดหมายของชาวญี่ปุ่นแถบคันไซในการเดินทางมารับประทานอาหารทะเลสดๆ โดยมี 'โทโท มาร์ท' (TOTO MART) ตลาดปลาที่รวบรวมอาหารทะเลหลายชนิดพร้อมปรุงสดใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวไว้คอยบริการ ทั้งยังมีบริการแช่แข็งอาหารทะเลและซีลอย่างดีเพื่อให้นักท่องเที่ยวนำกลับประเทศได้ โดยเป็นการแช่แข็งอย่างรวดเร็วที่อุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียส เพื่อช่วยคงความสดใหม่ของอาหารทะเลประเภทต่างๆ
นอกจากปลาที่สดใหม่แล้ว มิยาสึยังขึ้นชื่อว่ามีปูสุวาอิ หรือปูหิมะ (snow crab) ที่สดและตัวใหญ่ที่สุดในแถบคันไซ ชาวประมงที่นี่บอกว่า ฤดูกาลที่เหมาะกับการมารับประทานปูหิมะมากที่สุดคือในฤดูหนาว ช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม เนื่องจากปูจะตัวโตเต็มวัย ทั้งยังเป็นฤดูที่มีปูเยอะที่สุดเช่นกัน
ส่วนเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ 'ตับปลากระเบน' ซึ่งเชฟสามารถแล่ให้ชิมกันสดๆ ได้เลย โดยชาวญี่ปุ่นจำนวนมากมีความเชื่อว่าเมนูนี้ 'ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ'
การเดินทางจากมิยาสึนั้น สามารถเดินทางจากโอซะกะโดยใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้นด้วยการนั่งรถบัสจากสถานีฮันคิว (Hankyu Station) และลงรถบัสที่สถานีอามาโนะฮาชิดาเทะของเมืองมิยาสึได้เลย
อ่านเพิ่มเติม: