ไม่พบผลการค้นหา
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum 2025 ณ เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

วันนี้ (วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568) เวลาประมาณ 11.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเดินทางถึงประเทศไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นภารกิจการเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum 2025 ณ เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผลสำเร็จที่ชัดเจนคือการลงนามความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศ (EFTA) (TH-EFTA FTA) เป็นการเปิดการค้า แม้จะกับ 4 ประเทศในภูมิภาคยุโรป ยังไม่ครบทั้งสหภาพยุโรป (EU) แต่มีแผนว่าภายในปีนี้จะลงนามกับทั้งหมดของ EU ให้ได้ เพื่อเปิดเส้นทางการค้าของประเทศไทยกับ EU เป็นความสำเร็จของประเทศ โดยมีการดำเนินงานมาระยะหนึ่งแล้ว 

ส่วนการพบหารือกับภาคเอกชนได้มีการสอบถามเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (Future Industry) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ data center ต่างๆ รวมถึงด้านพลังงาน ซึ่งจากการที่ได้มีการพบปะกับหลายภาคส่วนได้สอบถามถึงความพร้อมในด้านพลังงานสีเขียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวให้ความมั่นใจว่า ไทยมีความพร้อม สามารถเข้ามาลงทุนได้อย่างเต็มที่ รวมถึงด้านการพัฒนาและยกระดับทักษะแรงงานของไทย นายกรัฐมนตรีได้พูดคุย พร้อมขอให้บริษัทที่เข้ามาลงทุนช่วยพัฒนาทักษะแรงงานไปด้วย ในขณะที่ไทยเองก็พัฒนาคนในรุ่นต่อๆ ไปควบคู่กันไปด้วย เพื่อเตรียมรับการลงทุนในอนาคต เพิ่มโอกาสในการจ้างงานสำหรับคนจบใหม่ในอนาคตด้วย เช่น บริษัท Google ที่ลงทุนในไทย มีการฝึกทักษะแรงงานไทย ขณะเดียวกันบริษัทก็ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาของไทยเพื่อพัฒนาฝีมือและทักษะอาชีพ ถือเป็นการหารือที่ครบวงจร มั่นใจว่า คนไทยมีศักยภาพในการเรียนรู้ที่ดีอยู่แล้ว

ส่วนการหารือกับ DP World เป็นการต่อยอดที่ชัดเจนจากอดีตนายกฯ เศรษฐา ฯ โดย DP World ให้ความสนใจ ทั้งเรื่องการทำท่าเรือ และอื่นๆ ส่วนเรื่อง LandBridge ทางบริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับการลงทุน มีความคืบหน้าในการเริ่มศึกษารายละเอียด และมีความเป็นไปได้สูง และเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทั้งนี้มีเอกชนหลายราย แต่ DP World ถือเป็นหลักที่ได้หารืออยู่ 

ส่วนประเด็นฝุ่นควัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ใช่วาระแห่งชาติธรรมดาแต่ถือเป็นวาระแห่งอาเซียนซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้กรอบของอาเซียน ได้มีการหารือและขอความร่วมมือแล้ว ให้ประเทศที่มีการเผา ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ต้องมีมาตรการ ทุกประเทศในอาเซียนช่วยกัน ซึ่งต้องมีกรอบความร่วมมือ เช่น ทุกกระทรวงของไทยที่ได้ให้มาตรการไปหมดแล้ว อีกทั้งได้มีการเตรียมการตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ก่อนปีใหม่ เช่น การปรับ โดยในส่วนอุตสาหกรรมซึ่งมีการเผาน้อยลงอย่างมากจากปีที่ผ่านมา แต่ฝุ่นเป็นเรื่องสะสมมาเป็นระยะเวลานาน ถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ว่าทุกๆคนต้องช่วยกันจริงเพื่อให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ คือกำลังแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ตอนนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งรัฐบาลก็มีแผน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ส่วนมาตรการ WFH เป็นมาตรการที่ทำได้ จะช่วยลดการเดินทางได้เยอะขึ้น โดยแนวทางที่คุยกันไว้เบื้องต้นคิดว่าเป็นไปได้ในเรื่องนี้ ขอให้มีการ WFH ในช่วงนี้ก่อนเพราะฝุ่นมีจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกภาคส่วนตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว และที่รัฐบาลได้เดินหน้ามาตรการ โดยใช้งบกลาง 140 ล้านบาท การขึ้นรถไฟฟ้าฟรี ก็เป็นมาตรการเร่งด่วน และเอกชนหลายที่ก็ได้ใช้ ถือเป็นเรื่องที่ช่วยกันในภาพรวม 

ประเด็น entertainment complex ไม่ใช่เรื่องการเปิดบ่อนเสรี แต่จะสร้างที่แหล่งท่องเที่ยวใหม่แบบ man made ซึ่งคาสิโนเป็นส่วนเล็กๆ ของทั้งหมดนี้ เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อทำให้ประเทศไทยเกิดรายได้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพราะรายได้เก่าๆ ไม่เพียงพอทำให้จีดีพีโตขึ้น จึงต้องเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ การประกอบอาชีพใหม่ สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ การที่บอกว่าจะไม่เอา ถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องอธิบายให้ประชาชน ต้องช่วยกันอธิบายไปทีละขั้นตอน และการรับฟังความคิดเห็นเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่แปลกที่จะมีการรับฟังความคิดเห็น