บริษัท 'แบดเจอร์ สปอร์ตส์แวร์' ผู้ผลิตเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าทางบริษัทจะหยุดการนำเข้าเสื้อกีฬาที่ผลิตจากโรงงานเหอเตี้ยน ไท่ต้า ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หลังจากเกิดข้อครหาว่าโรงงานเหอเตี้ยน ไท่ต้า ซึ่งรับผลิตเสื้อกีฬาให้แก่บริษัทนั้นละเมิดจริยธรรมด้วยการใช้แรงงานจากชาวมุสลิมอุยกูร์ซึ่งถูกทางการจีนบังคับนำตัวไปเข้าค่ายปรับทัศนคติ ซึ่งขัดกับหลักการจริยธรรมและนโยบายของทางบริษัท
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2561 เว็บไซต์เดอะนิวยอร์กไทม์รายงานอ้างอิงสารคดีที่ผลิตโดยสื่อในการควบคุมของรัฐบาลจีน มีเนื้อหาเกี่ยวกับโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่ใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ ซึ่งถูกส่งไปอยู่ในค่ายปรับทัศนคติของรัฐบาลจีน และพบเบาะแสบ่งชี้ว่าการใช้แรงงานดังกล่าวเกี่ยวโยงกับโรงงานที่รับผลิตเสื้อกีฬาแบรนด์ แบดเจอร์ เนื่องจากเป็นโรงงานที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง
อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลจีนได้ออกมาแก้ต่าง โดยระบุว่าการยกเลิกสัญญาการค้าระหว่างบริษัทกีฬาและผู้ผลิตเสื้อกีฬาในจีนครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เนื่องจากได้รับข้อมูลที่เป็นเท็จ ส่งผลกระทบทางธุรกิจ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ ทางการจีนยังยืนยันว่าไม่มีการบังคับใช้แรงงานในค่ายปรับทัศนคติในเขตปกครองตนเองซินเจียง แต่ก่อนหน้านี้ หน่วยงานของสหประชาชาติได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน พร้อมระบุว่า รัฐบาลจีนได้จับกุมและคุมขังชาวมุสลิมอุยกูร์นับล้านคนในเขตปกครองตนเองซินเจียงในค่ายปรับทัศนคติทางการเมือง เช่นเดียวกับรายงานของสถาบันกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลียที่เผยแพร่เมื่อปลายปี 2561 ระบุว่า รัฐบาลจีนได้ขยายพื้นที่ค่ายปรับทัศนคติสำหรับนักโทษชาวมุสลิม-อุยกูร์ออกไปอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทางการจีนได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการจับชาวมุสลิม-อุยกูร์คุมขังในค่ายปรับทัศนคติ พร้อมยืนยันว่าจีนให้สิทธิและเสรีภาพประชาชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงในการนับถือศาสนาอย่างเต็มที่
ที่มา The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง