องค์กรสุขภาพสัตว์โลก (OIE) กล่าวว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาที่ระบาดในหมูมานับตั้งแต่ปี 2557 นั้นคร่าชีวิตประชากรหมูทั่วโลกไปแล้วกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในจีนที่มีหมูติดเชื้อฯ ตายมากที่สุดกว่า 100 ล้านตัวนับตั้งแต่ปีที่แล้ว

รายงานของรัฐบาลจีนระบุว่า ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเลี้ยงหมูในจีนหดตัวลงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์และคาดว่าความเสียหายดังกล่าวจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก

Rabobank บริษัทให้บริการทางการเงินสำหรับอาหารและการเกษตรคาดการณ์ว่า ในประเทศจีนประชากรหมูในจีนอาจจะล้มตายจากเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกันมากถึง 20 - 70 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะมีหมูล้มตายสูงสุดถึง 350 ล้านตัว

ดร.มาร์ค สชิปป์ รองผู้อำนวยการองค์กรสุขภาพสัตว์โลกกล่าวว่า 'ปัญหานี้เป็นภัยคุกคามใหญ่ในการเลี้ยงสัตว์เชิงพาณิชย์..ขณะที่สัตว์แพทย์ทั่วโลกต่างหาวัคซีนวิธีการหยุดยั้งการแพร่ระบาดนี้ แม้ว่าโรคดังกล่าวจะไม่มีการติดเชื้อไปสู่คน แต่หากแพร่ระบาดในสัตว์เลี้ยงแล้วมีความเสี่ยงต่อชีวิต 100 เปอร์เซ็นต์'

ปีที่ผ่านมาเชื้อไวรัสอหิวาต์ได้แพร่ระบาดเข้าไปยังฟาร์มปศุสัตว์ในหลายประเทศทางแถบเอเชียตั้งแต่เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์รวมไปถึงเวียดนาม ลาวและกัมพูชาที่มีอาณาเขตติดกับประเทศไทยด้วย

การระบาดของเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในหมูนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลต่อจำนวนประชากรหมูและการเลี้ยงหมู แต่ยังกระทบถึงราคาของเนื้อหมูในตลาดโลก ซึ่งราคารเนื้อหมูในสหรัฐฯนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ขณะที่ราคาเนื้อหมูในยุโรปก็มีราคาสูงสุดในรอบ 6 ปี

อย่างไรก็ตามเชื้อไวรัสที่เป็นพาหนะของโรคอหิวาต์แอฟริกาจะไม่สามารถทำอันตรายกับร่างกายของมนุษย์ได้ แต่เชื้อดังกล่าวจะอยู่ในเนื้อสัตว์ได้อีก 2-3 เดือนหลังจากสัตว์ถูกฆ่าและนำเนื้อมาเพื่อบริโภค และเชื้อดังกล่าวอาจจะมีอายุถึง 2-3 ปี หากเนื้อสัตว์นั้นได้ถูกแปรรูปเป็นเนื้อสัตว์แช่แข็งซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อฯแพร่ระบาดไปยังประเทศอื่นๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ที่มา the guardian / Aljazeera

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ก.เกษตรฯ สั่งตั้งจุดตรวจ 3 จังหวัดแนวชายแดนอีสาน สกัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร
• 'เฉลิมชัย' เล็งประกาศ 'เชียงใหม่' เป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาด
• สธ. ย้ำคนปลอดภัยจาก 'อหิวาห์แอฟริกาในสุกร' แต่ควรระวัง 'โรคไข้หูดับ'